เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2556
ที่ห้องประชุมภูสวนทราย ศาลากลาง จ.เลย
นายใจเด็ด พรไชยา กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พร้อมด้วยนายสรรเสริญ พลเจียก
รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.
และคณะ เข้าพบนายสมพงศ์
อรุณโรจน์ปัญญา
ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย
ในโอกาสที่เดินทางมาตรวจความพร้อมการสรรหากรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดเลย
(กรรมการ ป.ป.จ.)
ภายหลังการหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ในฐานะประธานที่ปรึกษาคณะทำงานการสรรหา
ป.ป.จ. ได้เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน
นายใจเด็ดกล่าวว่า การเดินทางมาครั้งนี้เพื่อขอคุณสื่อมวลชน และขอความร่วมมือในการประชาสัมพันธ์การสรรหา ป.ป.จ. ให้ประชาชนได้รับทราบโดยกว้างขวาง เพื่อให้การสรรหา เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ ได้บุคคลที่มีคุณภาพและเป็นคนดี สื่อสัตย์ สุจริตเข้ามาดำรงตำแหน่งกรรมการ ป.ป.จ. ในส่วนของจังหวัดเลยสามารถมีกรรมการ ป.ป.จ.ได้ 3 คน กระบวนการสรรหาในขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างติดต่อทาบทามองค์กรต่างๆ 9 องค์กร ประกอบด้วย สมาคมหรือชมรมครู อาจารย์ หรือสมาคมทางด้านการศึกษา , สภาทนายความหรือผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมาย , สมาคมหรือชมรมพนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือสภาแรงงาน หรือสหภาพแรงงาน , สภาหอการค้าจังหวัดหรือสภาอุตสาหกรรมจังหวัดหรือชมรมธนาคารพาณิชย์จังหวัด , กลุ่มอาสาสมัคร , องค์กรเอกชน , องค์กรเกษตรกร , สมาคมหรือชมรมสื่อมวลชน และหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัด โดยในวันที่ 1-9 สิงหาคม 2556 นี้จะมีการเปิดให้ขึ้นทะเบียนของหน่วยงานหรือองค์กรที่ประสงค์จะส่งผู้แทนเข้าร่วมเป็นกรรมการสรรหา และในวันที่ 29 สิงหาคม 2556 จะมีการจัดประชุมผู้แทนหน่วยงานหรือองค์กรคัดเลือกกันเองให้เหลือ 1 คน เพื่อเป็นกรรมการสรรหากรรมการ ป.ป.จ. โดยวิธีลับ ซึ่งได้แต่งตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดเลยเป็นประธานที่ปรึกษาคณะทำงาน
กรรมการ ป.ป.ช.กล่าวอีกว่า สำหรับการรับสมัครผู้รับการคัดเลือกเป็นกรรมการ
ป.ป.จ. จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 26
สิงหาคม – วันที่ 4 กันยายน
2556 โดยกรรมการสรรหาจะคัดเลือกผู้สมัครที่มีคุณสมบัติครบถ้วนที่ตามกฎหมายกำหนดจำนวน
6 คน แล้วส่งรายชื่อให้กรรมการ
ป.ป.ช.พิจารณาคัดเลือกให้เหลือ 3 คน ซึ่งกระบวนการ
วิธีการตรวจสอบคุณสมบัติได้ดำเนินการเข้มข้น ไม่มีประวัติด่างพร้อย
หรือมีพฤติกรรมที่ขัดกับตำแหน่งหน้าที่อย่างแน่นอน กรรมการ ป.ป.จ.ที่เข้ามารับหน้าที่นี้จะต้องทำงานเต็มเวลา
ไม่เป็นข้าราชการ หรือผู้ที่ทำธุรกิจอื่นๆ ดำรงตำแหน่งได้วาระเดียว เป็นเวลา 4
ปี
ประชาชนที่ต้องการมีส่วนร่วม สามารถส่งคำร้องคัดค้านผู้ผ่านการคัดเลือกได้
หากพบว่าบุคคลนั้นๆ มีประวัติเกี่ยวข้องกับการทุจริต หรือมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม
ทางคณะกรรมการ ป.ป.ช.จะนำไปพิจารณาด้วย
นายใจเด็ดกล่าว
ทั้งนี้ สิทธิประโยชน์ในการเป็นคณะกรรมการ ป.ป.จ. ประกอบด้วย ค่าตอบแทนรายเดือน ในตำแหน่งประธานกรรมการ ป.ป.จ. เดือนละ 57,650 บาท ตำแหน่งกรรมการ ป.ป.จ. เดือนละ 47,240 บาท , บำเหน็จตอบแทน , การประกันสุขภาพ , ประโยชน์ตอบแทนอื่นตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กำหนด และมีสิทธิได้รับการเสนอชื่อเพื่อขอรับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์.
รายละเอียดเพิ่มเติม http://www2.ect.go.th/content.php?Province=samutprakan&SiteMenuID=3317&Action=view&Sys_Page=&Sys_PageSize=&DataID=15715