เมื่อวันที่
14 สิงหาคม 2556
ชาวบ้านวังยาว ต.นาแขม อ.เมือง จ.เลย จำนวนประมาณ 50 คน
เดินทางร่วมชุมนุมกันที่วัดป่าชมพูนุชวิสุทธิวนาราม บ้านวังยาว ต.นาแขม อ.เมือง จ.เลย
เพื่อร้องเรียนสื่อมวลชนกรณีที่ดินของวัดถูกกลุ่มผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น
จากบ้านนาแขมเข้ามาบุกรุก ขยายพื้นที่การเกษตร รวมพื้นที่เกือบ 100 ไร่
นายสมบูรณ์ โคตรมณี
ตัวแทนชาวบ้านผู้ร้องเรียนกล่าวว่า
วัดแห่งนี้ได้รับอนุญาตก่อตั้งมาตั้งแต่ พ.ศ.2539 โดยใช้พื้นที่สาธารณะประโยชน์
ป่าชุมชนของหมู่บ้าน รวมพื้นที่ 200 ไร่ โดยมีวัตถุประสงค์นอกจากเป็นที่ประกอบพิธีทางพุทธศาสนาของชุมชนแล้ว
ยังเป็นการอนุรักษ์ป่าไว้เป็นแหล่งอาหารของชาวบ้าน
ซึ่งสามารถเข้ามาเก็บเห็ด หาหน่อไม้ และของป่าอื่นๆ ได้ตลอดทั้งปี แต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา เริ่มมีกลุ่มชาวบ้านจากบ้านนาแขมเข้ามาบุกรุกพื้นที่ป่าชุมชนในเขตวัด
ทุกทิศ ทุกทาง
ชาวบ้านวังยาวและพระสงฆ์จึงทำเรื่องร้องเรียนไปยังผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน
แต่กลับไม่ดำเนินการใดๆ ยังปล่อยให้มีการบุกรุกป่าอย่างต่อเนื่อง สูญเสียพื้นที่ป่าไปแล้วประมาณ 100 ไร่
ตัวแทนชาวบ้านกล่าวอีกว่า จนกระทั่งเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม
2556 ได้ร้องเรียนไปยังนายอำเภอเมืองเลย จนกระทั่งถึงปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้า ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่เชื่อว่า
ผู้นำหมู่บ้านอาจมีผลประโยชน์ในการเรียกรับเงินจากผู้บุกรุกป่า เพราะมีพฤติกรรม นิ่งเฉยไม่มีความจริงใจในการแก้ปัญหา มิหนำซ้ำ
พระสงฆ์และชาวบ้านที่ออกมาต่อสู้กับเรื่องนี้กลับถูกข่มขู่เอาชีวิต โดยเมื่อช่วงกลางดึกคืนที่ผ่านมา มีคนมายิงปืนอยู่หน้าวัดด้วย ทำให้ชาวบ้านเกิดความหวาดกลัว
และเป็นห่วงพระสงฆ์ที่อยู่ในวัด จึงพาผลัดเปลี่ยนกันมาเข้าเวรรักษาความปลอดภัย
จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลแก้ปัญหานี้โดยด่วน
ด้านพระชูชาติ นรชโต
เจ้าอาวาสวัดเปิดเผยว่า
ไม่ได้ห่วงว่าจะไม่มีวัดอยู่
แต่เป็นห่วงป่าชุมชุนที่ชาวบ้านได้อาศัยพึ่งหากินตลอดปี
อนุรักษ์ให้เป็นป่าเช่นนี้ไปจนชั่วลูกชั่วหลาน
ส่วนตนนั้นจะไปอยู่ที่ไหนก็ได้
แต่ป่าต้องอยู่คู่กับชุมชน
นายเนรมิตร คำภู ปลัดอำเภอเมืองเลย |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น