ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า เวลาประมาณ 02.00 น. คืนที่ผ่านมา ได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวนประมาณ 20 คน สวมหมวกไอ้โม่ง เข้ามาลงมือทุบกำแพงจนพังราบ โดยมีคนอีกกลุ่มพกปืนคอยยืนคุ้มกัน ใช้เวลาทุบอยู่ประมาณ 10 นาที แล้วขึ้นรถยนต์หลบหนีออกไปอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ การก่อกำแพงกั้นถนนเข้าเหมืองทองเกิดขึ้นก่อนที่บริษัททุ่งคำจำกัดเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นและกำหนดขอบเขตแนวทางการประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ” หรือ Pubic Scoping (ค.1) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการจัดทำ “รายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA)” เพื่อประกอบคำขอประทานบัตรเพิ่มเติม ไปเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2556 ที่วัดโพนทอง ต.นาโป่ง อ.เมืองเลย โดยกลุ่มคนรักษ์บ้านเกิดได้เดินทางไปขอเข้าร่วมเวทีดังกล่าว แต่ไม่สามารถเข้าร่วม เนื่องจากมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายปกครอง พร้อมทั้งผู้จัดงานไม่อนุญาต จึงพากันชุมนุมประท้วงอยู่บริเวณหน้าวัด
กำแพงก่อนถูกทุบ |
หลังจากนั้น บริษัททุ่งคำจำกัด ได้มอบอำนาจให้ทนายความเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับแกนนำกลุ่มคนรักษ์บ้านเกิดจำนวน 14 คน ข้อหาละเมิด ใช้สิทธิเกินส่วน จากกรณีก่อกำแพงปิดกั้นเส้นทางเข้า-ออกเหมือง ซึ่งคำฟ้องยืนยันว่า เป็นที่ดินของทางบริษัทที่ซื้อมาโดยถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อตัดถนนผ่านเข้าออก เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้ถนนร่วมกับชุมชน การก่อกำแพงปิดถนนทำให้บริษัทได้รับความเสียหายจากการประกอบธุรกิจ จึงต้องเรียกค่าเสียหายจำนวน 50 ล้านบาท และค่าเสียหายในอนาคตอีกวันละ10 ล้านบาท นับจากวันที่ยื่นฟ้องร้อง
ภายหลังเกิดเหตุทุบทำลายกำแพง เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา แกนนำกลุ่มคนรักษ์บ้านเกิด ต.เขาหลวง 6 หมู่บ้าน ได้เรียกประชุมด่วน บรรยากาศเป็นไปอย่างเคร่งเครียด เพื่อหามาตราการตอบโต้การกระทำครั้งนี้ โดยมีแนวโน้มว่าจะร่วมกันก่อกำแพงขึ้นมาใหม่ ที่ประชุมมีการกล่าวถึงดำเนินชีวิตที่เกิดความทุกข์ยาก หลังจากมีเหมืองทองคำเข้ามาตั้งในพื้นที่ ทำให้ผู้ร่วมประชุมหลายรายต้องร่ำไห้ออกมาด้วยความเจ็บแค้น หลังจากนั้น แกนนำกลุ่มคนรักษ์บ้านเกิดได้ขอความร่วมมือให้ผู้สื่อข่าวและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาสังเกตการณ์ออกจากที่ประชุม โดยจะขอประชุมลับเป็นการภายใน
นายสุรพันธ์ รุจิไชยวัฒน์ เลขานุการกลุ่มรักษ์บ้านเกิด เปิดเผยว่า กรณีข้อพิพาทเรื่องการก่อสร้างกำแพงนั้นยังอยู่ระหว่างการพิสูจน์หาหลักฐาน สาเหตุและกระบวนการพิจารณาของศาลแพ่ง ที่กลุ่มคนรักษ์บ้านเกิดตกเป็นจำเลย จำนวน 14 คน ซึ่งชาวบ้านต่างยอมรับคำสั่งของศาล แต่มีชายฉกรรจ์ประมาณ 20 คน สวมหมวกไอ้โม่ง อาวุธครบมือ เข้ามาทำการทุบกำแพงของชาวบ้านทิ้ง ถือว่ารุนแรง ทำลายน้ำใจของชาวบ้านทั้ง 6 หมู่บ้าน ที่รวมกันทำด้วยความจริงใจ ปกป้องสิทธิของชุมชนตามรัฐธรรมนูญ.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น