วันพุธที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2556

ชาวสวนยางปากชมอารมณ์ค้าง ฉุนแกนนำไม่พาไปชุมนุม

 นายเฉวียน  กงสิมา 
นายก อบต.ปากชม  แคลงใจแกนนำหยุดเคลื่อนไหว  ไม่พาไปชุมนุมที่สีคิ้ว  โอดรัฐจ่าย 1,200 บาท ไร้ประโยชน์ เหตุส่วนใหญ่ปลูกยางในป่าสงวน  เผย  เกษตรกรปากชมขายขี้ยางลงขันเป็นค่ารถได้กว่า 300,000 บาทแล้ว พร้อมลุยตั้งม็อบที่สีคิ้ว หากมีเพื่อนร่วมทางอีกสักจังหวัด

จากกรณีที่เกษตรกรผู้ปลูกยางพาราในพื้นที่ภาคใต้ออกมาชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือแก้ปัญหาความเดือดร้อนจากราคาตกต่ำ และมีเกษตรกรจากภาคต่างๆ ได้มีการเคลื่อนไหวเรียกร้องเช่นเดียวกัน  สำหรับในพื้นที่จังหวัดเลย ซึ่งมีการปลูกยางพารามากเป็นอันดับ สองของภาคอีสาน  ก่อนหน้านี้แกนนำเกษตรกรได้ออกมาขู่ว่าจะเดินทางไปชุมนุมเรียกร้องร่วมกับเกษตรกรภาคอีสานที่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2556 ที่ผ่านมา  แต่กลับยุติการเคลื่อนไหว  ไม่เข้าร่วมชุมนุมนั้น  นายเฉวียน  กงสิมา นายก อบต.ปากชม อ.ปากชม จ.เลยหนึ่งกรรมการเกษตรกรชาวสวนยางจังหวัดเลย  กล่าวว่าขณะนี้ไม่สบายใจ  ตนอยากผลักดันเรื่องราคายางพาราตกต่ำต่อไป เพราะยังไม่มันใจในมาตรการช่วยเหลือจากรัฐบาล

นายเฉวียนกล่าวว่า  เกษตรกรที่ปลูกยางในพื้นที่จังหวัดเลยส่วนมากที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ เพราะเป็นพื้นที่ป่าเขา เขตป่าสงวน  เกษตรกรส่วนใหญ่พร้อมจะไปชุมนุมที่อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา หากมีเพื่อนเกษตรในจังหวัดอื่นๆ มาร่วมชุมนุมด้วย ตนขอเสนอตัวเป็นแกนนำ เคลื่อนพลกว่า 2,000 คน ในอำเภอปากชม ไปร่วมชุมนุมทันที ขอให้แจ้งมา  โดยขณะนี้ได้มีการรวบรวมเงินเพื่อเดินทาง ได้แล้วกว่า 300,000 บาท ซึ่งบางกลุ่มถึงขนาดขายขี้ยางมาเพื่อรวบรวมทุนที่จะเดินทาง ไปร่วมชุมนุม  กลุ่มเราไม่มีใบสั่งจากใคร  เป็นความเดือดร้อนของเกษตรกร จริงๆ  ขณะนี้แกนนำที่จังหวัดเลยนั้น หมดความน่าเชื่อถือแล้ว  เนื่องจากก่อนหน้านี้ มีข่าวว่า ว่ามีแกนนำบางคน ไปรับปากรับคำกับคำ ว่าจะไม่ให้เคลื่อนไหว

นายก อบต.ปากชมกล่าวอีกว่า  ตนอยากให้รัฐบาลหันมาสนใจเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราบ้าง  ไม่ใช่เพียงแต่ สนใจเกษตรกรที่ปลูกข้าวเท่านั้น  หันมาดูเกษตรที่ปลูกอย่างอย่างจริงจังบ้าง เพราะขนาดนี้ภาคอีสาน โดยเฉพาะที่จังหวัดเลย มีเกษตรที่ปลูกแล้วกว่า 900,000 ไร่ และในปีหน้าจะถึง 1 ล้านไร่อย่างแน่นอน แต่สวนมากไม่มีเอกสารสิทธิ์ เพราะจังหวัดเลย ทั้งจังหวัดเป็นพื้นที่สูง จึงไม่สามารถออกเอกสารสิทธิ์ ได้ ไม่เข้าข่ายตามโครงการช่วยเหลือเงิน 1,280  บาทจากรัฐบาลได้ในขณะนี้

“ตอนนี้บอกตรงๆ ไม่แน่ใจกับ บทบาทของแกนนำ ที่เคลื่อนไหว ก่อนหน้านี้ จริงๆ ทำไมต้องหยุด หากเกิดความเดือดร้อน อยากจะให้กลับมาเคลื่อนไหว อีกครั้ง หากเขาเคลื่อนไหวกันแล้ว เราไม่ทำอะไรแต่ กลับจะรับแต่ผลประโยชน์  การกระทำเช่นนี้ ไม่ใช่ลูกผู้ชาย มันเหมือน เอาเปรียบ เพื่อนร่วมอาชีพ”  นายเฉวียนกล่าว.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น