นายฑิตศักดิ์ สุริยาชัยวัฒนะ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง จ.เลย เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา บนยอดภูกระดึงมีอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียสหลายวันติดต่อกัน และมีบางช่วงอุณหภูมิติดติดลบ 4 องศาเซลเซียส จนเกิดน้ำค้างแข็ง หรือแม่คะนิ้งเกาะตามพืชพันธุ์ชนิดต่างบนหลังแปเป็นบริเวณกว้าง ส่งผลให้ในขณะนี้พบว่า ต้นไม้ที่อยู่ระดับต่ำแห้งเหี่ยวตายหลายชนิด เช่น เฟิร์น ต้นเอนอ้า และหญ้าที่ปกคลุมพื้นดิน
ซึ่งปกติในช่วงเวลานี้จะมีสีเขียว แต่ปัจจุบันกลายเป็นสีน้ำตาล ใบกรอบ สภาพเช่นนี้แทบจะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยช่วงนี้สภาพอากาศเข้าสู่หน้าแล้ง และร้อน เสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้ป่าเป็นอย่างยิ่ง จึงต้องระมัดระวังดูแลเป็นพิเศษ ป้องกันไม่ให้เกิดไฟไหม้ป่าขึ้นอีก ซึ่งเมื่อปีที่ผ่านมาเคยเกิดขึ้นมาแล้ว พื้นที่ป่าได้รับความเสียหายประมาณ 200 ไร่ คาดว่าในปีนี้สถานการณ์ไฟป่าอาจมีความรุนแรงมากขึ้น
นายฑิตศักดิ์ สุริยาชัยวัฒนะ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง |
นายอดิสร เหมทานนท์ หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าภูกระดึง |
ด้านนายอดิสร เหมทานนท์ หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าภูกระดึง กล่าวว่า
ขณะนี้สถานีควบคุมไฟป่าภูกระดึงได้เร่งประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่รอบอุทยานแห่งชาติภูกระดึงไม่ให้จุดไฟเผาป่าล่าสัตว์
และหาของป่า
ขณะเดียวกันยังได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึงเร่งทำแนวกันไฟตามจุดเสี่ยงที่สำคัญที่มีพันธุ์ไม้ที่ได้รับผลกระทบจากแม่คะนิ้งทำให้แห้งตาย เช่น กูดเกี๊ยะ หญ้าโขมง
ต้นเอนอ้า เฟิร์น และมีเม็ดสนสามใบที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี
โดยชิงเผาตามแนวกันไฟตามหลักวิชาการ เพื่อลดการสะสมของเชื้อเพลิง รวมระยะทางแนวกันไฟประมาณ 40 กิโลเมตร
ซึ่งแนวกันไฟจะเป็นการสกัดไฟไหม้ป่าในอันดับแรก เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าทำงานดับไฟได้ง่ายขึ้น.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น