เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบรถบัสโดยสารหมายเลขทะเบียน
10-1321 พิษณุโลก
สี่ฟ้า-ส้ม เลขข้างรถ 644-11 ป.2
มีนายนายกิตติศักดิ์ เฉลิมทรัพย์
อายุ 42 ปี
อยู่บ้านเลขที่ 90 ถ.พระองขาว อ.เมือง
จ.พิษณุโลก เป็นคนขับ สภาพพังทั้งด้านบนและด้านล่างและด้านหน้า
ส่วนด้านบนถนนพบรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า
วีโก้ สีขาว ทะเบียน บน 9708 เลย สภาพด้านหน้าพังยับ
จากการสอบสวนทราบว่า
นายเสียน สิงรักษ์ อายุ 42 ปี บ้านเลขที่ 22 หมู่ 1 ต.เหล่้ากอหก อ.นาแห้ว จ.เลย เป็นคนโตโยต้าวีโก้คันดังกล่าว
ออกจากบตัวเมืองเลย จะกลับบ้าน โดยนั่งมาในรถด้วยกัน 4 คน
เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุที่เป็นทางโค้งขึ้นเนิน ได้ชนกับด้านหน้าของรถทัวร์
แล้วเสียหลักแฉลบไปชนกับขอบปูนซีเมนต์ข้างทาง แต่ความแรง
ทำให้รถทัวร์พุ่งข้ามแนวกั้นตกลงไปข้างทาง พลิกคว่ำหลายตลบ และนอกจากนี้
เสาไฟฟ้าแรงสูงข้างทางยังได้รับความเสียหาย ล้มลงอีก 3 ต้น ทำให้มีผู้โดยสารมากับรถกระบะได้รับบาดเจ็บ
2 คน ส่วนผู้โดยสารที่มากับรถทัวร์
เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 3 ราย
โดยหนึ่งในนั้นเป็นเด็กชาย อายุประมาณ 3 ขวบ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 43 คน เจ้าหน้าที่ศูนย์รับแจ้งเหตุจากโรงพยาบาลเลย เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยเอกชน
และองค์กกรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ช่วยกันลำเลียงผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลเลยอย่างเร่งด่วน
นายจักกฤษ ยอดเมือง
ผู้โดยสารในรถทัวร์ เล่าว่า ตนนั่งหลังคนขับ จุดเกิดเหตุ เป็นทางโค้งลงเขา
ที่เรียกว่าโค้งหักศอกโค้งอันตรายมีป้านเตือนอยู่หลายแห่ง เห็นกระบะวิ่งคร่อมเลนกินเลนข้ามมาหารถทัวร์
และได้ชนกับรถทัวร์ คนขับจึงตะโกนบอกผู้โดยสารว่า รถถูกชนแล้ว เบรกแตก
บังคับรถไม่อยู่ให้กอดคอและจับกลุ่มกันไว้ ผมจะทำให้ดีที่สุด แล้วพยายามประคองรถให้ครูดไปตามขอบทาง
เพื่อชะลอความเร็ว แต่ไม่สำเร็จ รถได้เสียหลักข้ามขอบปูน พลิกคว่ำดังกล่าว
หลังเกิดเหตุ นายวิโรจน์
จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ
และเร่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาดูแล ทั้งผู้เสียชีวิต
และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ให้ทันถ่วงที
ส่วนคนขับรถทัวร์
และรถกระบะคู่กรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำตัวมาสอบสวน และให้เป่าวัดแอลกอฮอล์
ซึ่งคนขับรถทัวร์ ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ส่วนรถขับรถกระบะ คือนายเสียน
สิงรักษ์ อายุ 42 ปี ยังไม่ให้ความร่วมมือ
และหลบหลีกการสอบสวนของพนักงาน เจ้าหน้าที่จึงได้เร่งนำตัวคนขับมาทำการสอบสวน
ต่อไป.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น