จากกรณีที่เมื่อช่วงค่ำคืนของวันที่
15 พฤษภาคม 2557 ได้มีชายฉกรรจ์ พร้อมอาวุธปืน มีด และท่อเหล็กประมาณ 400 คนเข้ามาในพื้นที่บ้านนาหนองบง ต.เขาหลวง
อ.วังสะพุง จ.เลย หมู่บ้านที่อยู่ติดกับเหมืองทองบริษัททุ่งคำจำกัด โดยได้ทำการปิดล้อมตามจุดตรวจชุมชนและจับควบคุมตัวชาวบ้านที่อยู่ประจำจุดตรวจทางเข้าหมู่บ้าน
จำนวน 30-40 คนเอาไว้ ได้ถูกรุมทำร้ายจับมัดมือชาวบ้านทั้งหญิงชาย
พร้อมกับชิงเอาทรัพย์สินของชาวบ้านไปด้วย และยิงปืนข่มขู่ตลอดทั้งคืน จาก 4
ทุ่มถีงตี 5 ชาวบ้านบาดเจ็บจำนวนมาก เพื่อทำการขนแร่ทองแดงมูลค่ากว่า
300 ล้านบาท ออกจากเหมืองทองคำบริษัททุ่งคำจำกัด นั้น
เว็บไซต์คนชายขอบ
(http://transbordernews.in.th/ )
รายงานว่า เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม
2557 ชาวบ้านในนามกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิด 6 หมู่บ้าน ต.เขาหลวง ได้ประชุมหารือถึงกรณีดังกล่าว โดยมีมติส่งจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาผู้บัญชาการทหารบก
ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อร้องทุกข์
กรณีที่มีนายทหารพัวพันกับการขนแร่ของ บริษัท ทุ่งคำ จำกัด
ที่ใช้ความรุนแรงต่อประชาชน 6
หมู่บ้าน
จดหมายเปิดผนึกระบุว่า
จากเหตุการณ์เมื่อ วันที่ 21 – 22 เมษายน 2557 นายทหารยศพลโทรายหนึ่ง และผู้ติดตามอีก 16 คน
ซึ่งอ้างว่าเป็นทหารได้เดินทางเข้ามาที่หมู่บ้านนาหนองบง “คุ้มใหญ่” โดยใช้รถตู้คันหนึ่งที่โดยสารหมาย
เลขทะเบียน ฮก 4700 กรุงเทพมหานคร จดทะเบียนในชื่อนายทหารยศพันโทรายหนึ่งเมื่อถึงบริเวณหน้าบ้านของนายสุรพันธ์
รุจิไชยวัฒน์
ก็ได้บุกรุกเข้าไปในบริเวณบ้านและแสดงพฤติกรรมข่มขู่คุกคามประชาชน
กลุ่มคนรักษ์บ้านเกิด ที่มาเฝ้าดูเหตุการณ์
หลังจากนั้นได้เปิดเผยความต้องการที่จะขนแร่ทองแดงของ บริษัท ทุ่งคำ จำกัด
ผ่านถนนสาธารณะของชุมชน
หลังเหตุการณ์กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิด
ได้ส่งจดหมายเปิดผนึก ลงวันที่ วันที่ 24
เมษายน 2557 เพื่อร้องเรียนการละเมิดสิทธิชุมชนและสิทธิมนุษยชนและกรณีปัญหาการข่มขู่คุกคามในหมู่บ้าน
และขอให้พล.อ.ประยุทธ์ดำเนินการสอบสวน นายทหารนอกราชการยศพลโทรายนี้ และกลุ่มผู้ติดตามที่อ้างว่าเป็นนายทหารดังกล่าวแต่จนบัดนี้ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ
ทั้งสิ้น
ในจดหมายระบุอีกว่า เหตุการณ์ในคืนวันที่
15 พฤษภาคม ถึง เช้าวันที่ 16 พฤษภาคม 2557 มีพยานในเหตุการณ์ยืนยันได้ว่ามีนายทหารเป็นผู้สั่งการการปฏิบัติการขนแร่เถื่อนในครั้งนี้รวมถึงทั้งแผนการและลักษณะของการปฏิบัติการก็คล้ายการจู่โจมของทหาร
จากนั้นประชาชน
จึงรวมกลุ่มกันจัดเวรยามเพื่อตรวจสอบดูแลความปลอดภัยของประชาชนในหมู่บ้านด้วยตนเอง
เนื่องจากข้อมูลจากอุตสาหกรรมจังหวัดเลยระบุว่า
จำนวนแร่ทองแดงที่กองกำลังเถื่อนติดอาวุธขนออกไปได้นั้นมีจำนวน476 ตันแต่สามารถขนออกไปได้เพียง 316 ตัน คงเหลือแร่ทองแดงที่ยังไม่ได้ทำการขน 160
ตัน
รวมถึงสื่อมวลชนได้รายงานว่ายังมีแร่ทองแดงที่ค้างอยู่ในเหมืองทองคำแห่งนี้อีกประมาณ 2,000 ตัน และแร่ที่ยังไม่ได้แต่งอีก 20,000
ตัน โดยที่ประชาชน กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิด
ได้ทราบว่าข่าวจะมีการขนแร่ด้วยรถบรรทุก 55 อีกครั้งในวันที่
29-30 พฤษภาคมนี้
แต่ก็ไม่สามารถยืนยันหรือไม่สามารถทราบได้ว่าจะมีการขนแร่โดยใช้กองกำลังเถื่อนติดอาวุธเข้ามาทำร้ายประชาชนในหมู่บ้านอีกหรือไม่
ในจดหมายระบุด้วยว่า
ยิ่งเมื่อกองทัพบกประกาศกฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ในขณะที่ประชาชน กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิด
ได้รวมกลุ่มกันจัดเวรยามเพื่อตรวจสอบดูแลความปลอดภัยของประชาชนในหมู่บ้านด้วยตนเองสถานการณ์ดังนี้ได้สร้างความหวั่นวิตกต่อประชาชนในหมู่บ้าน
เนื่องจากอาจจะมีความสุ่มเสี่ยงที่จะถูกคุกคามทำร้ายมากยิ่งขึ้น
โดยเฉพาะเมื่อการขนแร่ของ บริษัท ทุ่งคำ จำกัด มีความเกี่ยวข้องชัดเจนกับนายทหาร ทางกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดจึงเรียนมาเพื่อขอให้พล.อ.ประยุทธ์ในฐานะผู้บัญชาการทหารบก
เร่งดำเนินการตรวจสอบนายทหารนอกรีต ทั้งที่ปลดประจำการแล้ว
และอยู่ระหว่างรับราชการ ที่เป็นตัวการและมีส่วนเกี่ยวข้องกับการขนแร่ของ บริษัท
ทุ่งคำ จำกัด อย่างเร่งด่วน
โดยให้มีการลงโทษอย่างสูงสุดทั้งทางวินัยและดำเนินคดีอาญาหากพบความผิด.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น