วันอาทิตย์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ทำโป่งเทียมเพิ่มแหล่งอาหารช้างเฉลิมพระเกียรติ บนภูหลวง




เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม  2557  น.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์  ประธานคณะอนุกรรมการโครงการปลูกพืชให้ชาติ สร้างอาหารให้สัตว์ป่าเฉลิมพระเกียรติ  พร้อมคณะสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร  เดินทางมาตรวจเยี่ยมความคืบหน้าโครงการสร้างแหล่งอาหารช้างป่า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง  จ.เลย  โดยมีนายชัยณรงค์  ดูดดื่ม  หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง  และเจ้าหน้าที่ นำเข้าสู่พื้นที่โครงการ ซึ่งอยู่บริเวณโคกห้วยเตย  ซึ่งเป็นพื้นที่ทุ่งหญ้า สัตว์ป่าหลายชนิด โดยเฉพาะช้างมักลงมาหาอาหาร และแหล่งน้ำ   ทั้งนี้ คณะของน.ส.สุมล ได้ร่วมกันเทเกลือ และแคลเซี่ยมเพื่อสร้างโป่งเทียมให้สำหรับสัตว์ป่าได้มีแหล่งอาหารเพิ่มขึ้นด้วย

น.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์  กล่าวว่า  การดำเนินโครงการนี้ เนื่องมาจากรัฐสภา ได้เล็งเห็นความสำคัญของพืช โป่ง และน้ำ ซึ่งเป็นอาหารของช้างและสัตว์ป่านานาชนิด ซึ่งในปัจจุบัน ช้างและสัตว์ป่าอื่นๆมีจำนวนลดน้อยลง โดยที่มาส่วนหนึ่งนั้นเกิดจากแหล่งอาหารภายในป่าไม่เพียงพอ ทำให้สัตว์ป่า โดยเฉพาะช้าง ออกมาหากินนอกป่าเพิ่มมากขึ้น ก่อให้เกิดปัญหาระหว่างคนและช้างขึ้น รัฐสภา จึงได้ดำเนินโครงการปลูกพืชให้ช้าง สร้างอาหารให้สัตว์ป่า เฉลิมพระเกียรติ  ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมแด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินีนาถ  ซึ่งเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวงมีช้างอยู่จำนวนประมาณ 120 ตัว  ทางรัฐสภาจึงได้อนุมัติงบประมาณให้จำนวน 2 ล้านบาท  โดยเป็นพื้นที่โครงที่ 4 ต่อเนื่องจากอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน  อุทยานแห่งชาติกุยบุรี  เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน  รวมงบประมาณดำเนินโครงการทั้งสิ้น 6 ล้านบาท



 นายชัยณรงค์  ดูดดื่ม  หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง   กล่าวว่า  จำนวนช้างป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวงได้เพิ่มจำนวนมากขึ้นทุกปี ปัจจุบันมีอยู่จำนวน 120 ตัว  การดำเนินโครงการดังกล่าว ทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าได้ขุดแหล่งน้ำกระจายไปตามจุดต่างๆ ที่ช้างมักลงมาหาอาหารจำนวนกว่า 10 จุด  พร้อมสร้างโป่งเทียมควบคู่กันไปด้วย ซึ่งจากการเฝ้าสังเกตการณ์ของเจ้าหน้าที่ พบว่ามีช้างและสัตว์ป่าเริ่มเข้ามาหากินบริเวณพื้นที่โครงการมากขึ้น  สามารถแก้ปัญหาช้างออกไปหากินในพื้นที่นอกเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวงได้เป็นอย่างดี  ปัญหาออกไปทำลาย หากินพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้านและทำร้ายนักท่องเที่ยวก็ลดน้อยลงไปด้วย.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น