ผู้การบังคับการจังหวัดทหารบกเลย พร้อมด้วยด้วยผู้ว่าราชการจังหวัดเลย นำกำลังทหาร ตำรวจ อส. เจ้าหน้าที่ป่าไม้ กว่า 100 นาย เข้าตรวจยึดบ้านทรงไทยหลังใหญ่มูลค่าไม่ต่ำกว่า 60 ล้านบาท กลางป่าสงวนแห่งชาติ พร้อมยึดสวนยางพาราบุกรุกป่าอีกกว่า 500 ไร่ สาวตัวการใหญ่เป็นนายหัว คนสนิทนักการเมืองใหญ่ใน จ.สุราษฎร์ธานี
เมื่อวันที่
7 สิงหาคม 2557 พล.ต.วรทัต สุพัฒนานนท์ ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกเลย
ในฐานะผู้บังคับกองกำลังรักษาความสงบประจำพื้นที่จังหวัดเลย พร้อมด้วย
นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย
และพ.อ.สมหมาย บุษบา คณะทำงานด้านกฎหมาย
กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 2 นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ
เจ้าหน้าที่ป่าไม้
เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง
กองกำลังศรีสองรัก เข้าตรวจยึดบ้านไม้ทรงไทย
ซึ่งกำลังก่อสร้างได้ประมาณร้อยละ 70 อยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าดงปากชม บริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยชมแล้ง หมู่ 10 บ้านโนนภูทอง ต.ธาตุ
อ.เชียงคาน จ.เลย ซึ่งคาดว่าก่อสร้างมาแล้ว
7-8 ปี
ทั้งนี้ บริเวณบ้านหลังดังกล่าว คณะเจ้าหน้าที่ต้องเดินทางจากถนนสายบ้านธาตุ-ปากชม เลี้ยวซ้ายไปบนเป็นเส้นทางลูกรัง ระยะทางประมาณ 5-6 กิโลเมตร ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า บ้านหลังนี้ก่อสร้างด้วยไม้เนื้อแข็ง ใช้วัสดุชั้นดี และเป็นที่น่าสังเกตว่า
บริเวณหน้าบ้านมีอ่างเก็บน้ำ สร้างโดยกรมพัฒนาที่ดิน แล้วเสร็จเมื่อปี 2555 ซึ่งเป็นเวลาหลังจากการเริ่มก่อสร้างบ้านหลังนี้
การเข้าตรวจยึดครั้งนี้
เจ้าหน้าที่พบเพียงผู้รับจ้างกรีดยางอยู่ในบ้านพักคนงานประมาณ 20 คน
และพบนายวัฒนา ศรีแสง อายุ 45 ปี
อยู่บ้านเลขที่ 148 หมู่ 1
ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี รับเป็นผู้ดูแลบ้านและสวนยางพารา ซึ่งนายวัฒนาให้การว่า เพิ่งมาอยู่ที่นี่ได้เพียง 1 ปี ไม่ทราบว่าใครเป็นเจ้าของบ้านที่แท้จริง
นายไพโรจน์ ตันมิ่ง
หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่า ลย.13 (จอมศรี) เปิดเผยว่า
จากการสอบสวนเจ้าหน้าที่พบว่า
บ้านหลังดังกล่าว มีนายชลิต บุญสา ชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นผู้แจ้งขึ้นบ้านเลขที่อำพรางไว้บ้านสงเปือย
ต.ธาตุ อ.เชียงคาน ซึ่งเคยถูกเจ้าหน้าที่เข้าตรวจยึดไปแล้วเมื่อปี
2555 โดยมีชื่อของนายสมพร วรรคจันทร์
แสดงตัวเป็นเจ้าของบ้าน
ซึ่งคดีอยู่ในชั้นการพิจารณาของอัยการสูงสุด โดยก่อนหน้านั้น
อัยการจังหวัดเลยสั่งไม่ฟ้อง
แต่นายเริงชัย ไชยวัฒน์ ปลัดจังหวัดเลยในขณะนั้นเห็นแย้ง จึงส่งคดีไปให้อัยการสูงสุดพิจารณาตามขั้นตอน มาครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่ามีการบุกรุกแผ้วถางป่าเพื่อขยายพื้นที่ปลูกยางพาราเพิ่มอีก
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้ตรวจยึดพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่ถูกบุกรุกเพื่อปลูกยางพาราอีก
528 ไร่
จึงได้ควบคุมตัวคนงานรับจ้างกรีดยางและผู้ดูแลบ้าน
ส่งไปดำเนินคดีและสอบสวนหาผู้ว่าจ้างที่แท้จริงต่อไป ซึ่งจากการสืยสวนในเชิงลึก เจ้าหน้าที่พบว่า
เจ้าของบ้านเป็นคนสนิท เครือข่ายของนักการเมืองใหญ่ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น