เทศบาลตำบลนาโป่งผุดโครงการใหญ่ ก่อสร้างโรงงานผลิตไฟฟ้าโดยใช้ขยะเป็นพลังงาน วงเงิน 200 ล้านบาท รองรับขยะจากอบต.และเทศบาลใกล้เคียงรวมวันละ 100 ตัน ขายไฟฟ้าให้ กฟภ.
ที่ห้องประชุมเทศบาลตำบลนาโป่ง อ.เมือง จ.เลย
มีการประชุมโครงการศึกษาวิจัยระบบการจัดการขยะมูลฝอยในเขตเทศบาลตำบลนาโป่ง
อำเภอเมือง จังหวัดเลย มีผู้บริหารประธานสภาเทศบาลนาโป่ง สมาชิกสภาเทศบาลนาโป่ง
ผู้นำชุมชนและประธานบริษัท ดี เวิร์ล คอปเปอเรชั่น จำกัด ร่วมประชุม
นายชัยยุทธ
พิศสถาน นายกเทศมนตรีตำบลนาโป่งกล่าวว่า
เทศบาลตำบลนาโป่งมีเขตพื้นที่รับผิดชอบ 16 หมู่บ้าน 2,965 หลังคาเรือน ปัญหาปริมาณขยะในชุมชนของเริ่มมีมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบันเพิ่มขึ้นวันละกว่า 1 ตัน
ซึ่งเทศบาลต้องจัดสรรงบประมาณสำหรับบริหารจัดการขยะปีละกว่า 1 ล้านบาท โดยนำรถขยะไปทิ้งที่โคกช้างไห้ ต.ศรีสองรัก
อ.เมืองเลย ซึ่งเป็นที่ทิ้งขยะของเทศบาลเมืองเลย
ระยะทางไกลประมาณ 30 กิโลเมตร ผู้บริหาร
และสมาชิกสภาเทศบาลตำบลนาโป่งจึงได้จัดทำโครงการศึกษาวิจัยระบบการจัดการขยะมูลฝอยในเขตเทศบาลตำบลนาโป่ง โดยมีบริษัท ดี เวิร์ล คอปเปอเรชั่น จำกัด เป็นที่ปรึกษา และเสนอรูปแบบของโครงการ
นายชัยยุทธกล่าวอีกว่า เทศบาลนาโป่งจัดทำข้อเสนอขอรับการสนับสนุนงบเงินอุดหนุนเฉพาะกิจ
ภายใต้แผนปฏิบัติการเพื่อจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมในการจัดการขยะมูลฝอยแบบถูกหลักสุขาภิบาล
และครบวงจรสามารถรองรับขยะมูลฝอยที่เกิดขึ้นในพื้นที่เป้าหมาย เพื่อศึกษาความเหมาะสมของพื้นที่
ที่ใช้ในการจัดการมูลฝอยแบบครบวงจร เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด และสามารถรองรับการจัดการขยะ
มูลฝอยได้โดยไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้านอื่น ๆ รวมถึงการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบถึงแนวทางในการจัดการขยะมูลฝอยอย่างถูกวิธี
และสร้างจิตสานึกในการรักษาสิ่งแวดล้อมให้กับประชาชนในเขตเทศบาลตำบล นาโป่งและชุมชนใกล้เคียง โดยสามารถรองรับปริมาณขยะได้วันละ
100 ตัน จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใกล้เคียง 8-10 แห่ง ในอนาคต ขยะที่จะนำมาป้อนโรงงานผลิตไฟฟ้าอาจถึงขั้นขาดแคลน
นายกเทศมนตรีตำบลนาโป่งกล่าวอีกว่า รูปแบบของโครงการเป็นการการกำจัดขยะโดยใช้เทคโนโลยีการผลิตเชื้อเพลิงจากขยะ
เพื่อนำไปผลิตไฟฟ้า
ลดภาระการใช้ก๊าซธรรมชาติและถ่านหิน
ด้วยรูปแบบพลังงานหมุนเวียนที่สะอาดไร้มลภาวะ สามารถสร้างงาน
สร้างอาชีพและรายได้ให้ประชาชนท้องถิ่น
ถือเป็นการพัฒนาด้านเศรษฐกิจสำหรับจังหวัด
ซึ่งขณะนี้กำลังเสนอโครงการต่อการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หากการไฟฟ้าส่วนภูภมิภาคทำสัญญารับซื้อไฟฟ้า
ก็จะสามารถนำไปยื่นกู้เงินงบประมาณจากแหล่งเงินทุนได้
อย่างไรก็ตามต้องชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนในท้องถิ่นก่อนว่าจะเห็นด้วยหรือไม่กับการโครงการนี้
โดยผ่านเวทีประชาคมเสียก่อน.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น