ตัวแทนชาวบ้านกลาง ต.ปากตม อ.เชียงคาน เดินทางเข้าเมืองหลวง ยื่นหนังสือต่อรองอธิบดีกรมชลประทาน คัดค้านโครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำศรีสองรักราคา
5,000 ล้านบาท หวั่นบ้านเรือน-ที่ดินดำกินกว่า
1,000 ไร่ จมใต้น้ำ อพยพหนีถิ่นฐานเดิม ชุมชนไทพวนล่มสลาย ระบุ
เคยยื่นหนังสือคัดค้านผ่านทางอำเภอและจังหวัดแล้วหลายครั้งยังเงียบ ด้านอธิบดีกรมชลประทานเผย
ไม่เคยเห็นหนังสือคัดค้านจากทางจังหวัด
หากชาวบ้านไม่ต้องการก็พร้อมยุติโครงการ
เว็บไซต์คนชายข่าว คนชายขอบ (http://transbordernews.in.th) รายงานว่า เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2559 เวลาประมาณ 10.00 น. ที่กรมชลประทาน กรุงเทพฯ ตัวแทนชาวบ้าน 10 คน จากบ้านกลาง ตำบลปากตม อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย เดินทางมายื่นหนังสือต่ออธิบดีกรมชลประทาน เพื่อคัดค้านโครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำศรีสองรัก ที่จะกั้นแม่น้ำเลยในพื้นที่ตำบลปากตม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการแก้ภัยแล้งในโครงการผันน้ำโขง-เลย-ชี-มูล โดยมีว่าที่ร้อยตรีไพเจน มากสุวรรณ รองอธิบดีฯ ฝ่ายวิชาการ เป็นตัวแทนรับหนังสือ
นางสรรัตน์ แก้วสา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ตำบลปากตม จังหวัดเลย กล่าวว่า
ที่ผ่านมาชาวบ้านไม่เคยรู้มาก่อนว่าจะมีโครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำศรีสองรัก
จนกระทั่งกรมชลประทานเข้ามาจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นในพื้นที่
ซึ่งชาวบ้านได้แสดงความเห็นคัดค้านในทุกครั้ง
เนื่องจากมีความกังวลถึงผลกระทบต่อที่อยู่อาศัยกว่า
350 หลังคาเรือน และพื้นที่ทำกินกว่า 1,000 ไร่
รวมถึงกระทบต่อวิถีชุมชนของชาวไทยพวนที่ชุมชนบ้านกลาง ซึ่งมีอยู่เพียงแห่งเดียวในจังหวัดเลย
ผู้ใหญ่บ้านกล่าวต่อว่า ชาวบ้านเคยยื่นหนังสือคัดค้านหลายครั้ง
โดยเฉพาะต่อหน่วยงานระดับอำเภอและระดับจังหวัด
แต่กลับไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ จนเมื่อมีการเข้ามาตั้งสำนักงานโครงการฯ
ในพื้นที่อำเภอเชียงคาน และมีเจ้าหน้าที่เข้ามาสำรวจระดับน้ำและที่ดิน ทำให้รู้ตัวว่าโครงการฯ
กำลังเดินหน้าการก่อสร้างในเร็วๆ นี้
ชาวบ้านจึงตัดสินใจส่งตัวแทนเดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมชลประทาน
โดยมีข้อคัดค้าน คือ
1.ชาวบ้านไม่เคยรับรู้รายละเอียดการก่อสร้างประตูระบายน้ำศรีสองรักก่อนที่จะมีการเริ่มโครงการ
2.ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลของผลกระทบตลอดลำน้ำ
ซึ่งจะเป็นพื้นที่กักเก็บน้ำให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
3.ชุมชนบ้านกลางเคยประสบปัญหาน้ำท่วม และประสบปัญหาการกัดเซาะตลิ่ง
เกรงว่าหากมีน้ำท่วมสูงขึ้นจะส่งผลกระทบต่อปัญหาดังกล่าวให้รุนแรงยิ่งขึ้น
จึงต้องการให้กรมชลประทานมีการทบทวนโครงการนี้ใหม่
ด้านนายว่าที่ร้อยตรีไพเจน มากสุวรรณ รองอธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่าไม่เคยได้รับหนังสือคัดค้านจากชาวบ้านที่ส่งผ่านอำเภอ
เมื่อวันนี้ชาวบ้านมายืนยันด้วยตัวเองว่าไม่ต้องการประตูน้ำ กรมชลฯ
ก็จะไม่มีการสร้างอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ ข้อมูลจากเว็บไซต์ ศูนย์บริการประชาชน
สำนักงานปลัดนายกรัฐมนตรี ระบุ โครงการประตูระบายน้ำศรีสองรัก จังหวัดเลย
ใช้ระยะเวลาดำเนินการ 6 ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 – 2564) คือ
1.ดำเนินการเตรียมความพร้อมโครงการและสำรวจปักหลักเขต ในปี พ.ศ. 2559 , 2.
ดำเนินการก่อสร้างประตูระบายน้ำและอาคารประกอบพร้อมส่วนประกอบอื่น ใช้ระยะเวลาดำเนินการ
5 ปี (พ.ศ. 2560-2564) , 3. ดำเนินการก่อสร้างสถานีสูบน้ำและระบบท่อส่งน้ำ
ใช้ระยะเวลาดำเนินการ 3 ปี (พ.ศ. 2562-2564) ภายใต้งบประมาณ 5 พันล้านบาท
โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2559 จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2564.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น