วันเสาร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2559

หัวหน้าอุทยานฯภูกระดึงชี้แจงไฟป่า ลามขึ้นหลังแป 2 ครั้ง-ดับหมดแล้ว



จากกรณีที่นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า  เกิดเหตุไฟไหม้ป่าบนภูกระดึงแล้ว 48 ครั้ง นับตั้งแต่ปีใหม่เป็นต้นมา  สร้างความเสียหายให้แก่พื้นที่ป่าแล้วหลายร้อยไร่  โดยเจ้าหน้าที่ไม่รายงานให้ทราบ  ซึ่งขณะนี้กำลังตั้งกรรมการสอบสวนหัวหน้าอุทยานฯและเจ้าหน้าที่นั้น

นายฑิตศักดิ์  สุริยาชัยวัฒนะ  หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง  เปิดเผยชี้แจงว่า  ยอมรับว่าไฟป่าในเขตอุทยานแห่งชาติภูกระดึงไหม้มาแล้ว 48 ครั้งจริง  แต่ลุกลามขึ้นหลังแปเพียง 2 ครั้งเท่านั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง เป็นหน่วยเสริมเท่านั้น หน่วยป้องกันไฟป่าภูกระดึง เป็นหน่วยงานหลักในการดับไฟป่า  ซึ่งครั้งล่าสุดที่ไฟได้โหมลุกลามขึ้นบนหลังแปเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2559  ตนก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งออกไปช่วยกันสกัดไฟ ร่วมกับหน่วยป้องกันไฟป่าภูกระดึง  โดยมีรถแทรกเตอร์ 1 คัน  เร่งดันดินทำแนวกันไฟ  ขณะนั้นมีลมแรงมาก เจ้าหน้าที่ต้องทิ้งรถ วิ่งหนีเอาตัวรอด  เพราะแรงลมได้หอบไฟมาหาเจ้าหน้าที่  ทั้งนี้  บริเวณที่เกิดเหตุไม่มีสัญญาณโทรศัพท์  หลังจากใช้เวลาดับกว่า 1 วัน จึงสำเร็จ  เจ้าหน้าที่จึงได้เดินเท้าลงมาด้านล่าง ใช้เวลาอีกเกือบ 1 วัน  กว่าจะรวบรวมข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วนได้ ก็ถึงวันที่ 24 มีนาคม 2559 จึงได้ทำรายการส่งให้ผู้บังคับบัญชาทราบเป็นลำดับขั้นตอน

นายฑิตศักดิ์  สุริยาชัยวัฒนะ  
ตนไม่ได้มีเจตนาที่จะปกปิด ไม่รายงานเหตุการณ์  สภาพภูมิประเทศบนภูกระดึง ไม่เหมือนอุทยานแห่งชาติอื่นๆ การเดินทางลำบาก  เจ้าหน้าที่ทุกคนต่างทำงานกันอย่างเต็มความสามารถ  ไฟป่าที่ไหม้ด้านล่าง ก็เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นทุกปีอยู่แล้ว  พอไหม้ขึ้นมา  เจ้าหน้าที่ก็ดับได้ทุกครั้ง  หากเทียบกับอุทยานแห่งชาติอื่นๆ ก็ไหม้กันทั้งนั้น เป็นเรื่องปกติของหน้าแล้ง เรื่องนี้ตนขอความเป็นธรรมด้วย

ทั้งนี้  สถิติการเปิดไฟป่าในพื้นที่อนุรักษ์ตั้งแต่เดือน 1 ตุลาคม 2558-23 มีนาคม 2559 มีการดับไฟป่าแล้วจำนวน 4,130 ครั้ง มีพื้นที่ป่าถูกไฟไหม้ประมาณ 6.1 หมื่นไร่ โดยมีพื้นที่ป่าเสียหายมากกว่าปีงบประมาณ 2558 ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นแล้วกว่า 1.4 หมื่นไร่.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น