ทั้งนี้ ชาวบ้านกลุ่มคนรักษ์บ้านเกิดจำนวนกว่า 300 คน
ได้เดินทางมารอฟังคำพิพากษา
ท่ามกลางการรักษาความปลอดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเลยจำนวน 100 นาย ซึ่งศาลได้อนุญาตให้กลุ่มคนรักษ์บ้านเกิดเข้าไปในห้องพิจารณาคดีได้จำนวน
100 คน ส่วนที่เหลือ รออยู่ด้านล่าง โดยเจ้าหน้าที่ได้เต็นท์และเก้าอี้มาไว้คอยอำนวยความสะดวกด้วย
จนกระทั่งเวลาประมาณ 10.30 น.
ผู้พิพากษาได้อ่านคำตัดสินเสร็จสิ้นลง
ชาวบ้านและกลุ่มทนายความได้เดินออกมาจากอาคารศาลด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม หลังจากนั้น นางสาว ส.รัตนมณี พลกล้า
ทนายความฝ่ายโจทก์ จากมูลนิธิศูนย์ข้อมูลชุมชน ได้ชี้แจงผลการตัดสินคดีต่อชาวบ้านกลุ่มคนรักษ์บ้านเกิด
นางสาว ส.รัตนมณี พลกล้า
ระบุว่า ศาลได้พิจารณาคดีนี้
เห็นว่า จำเลยที่ 1 หรือพ.ท.ปรมินทร์ ป้อมนาค และจำเลยที่ 2 หรือพล.ท. ปรเมษฐ์ ป้อมนาค มีความผิดตามที่โจทก์ยื่นฟ้องจริง ตัดสินลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 เป็นเวลา 2 ปี 12 เดือน โดยไม่รอลงอาญา แต่จำเลยที่ 2 ให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี ศาลจึงลดโทษเหลือกึ่งหนึ่ง และให้ชดใช้ค่าเสียหายต่อทรัพย์สิน
ค่ารักษาพยาบาลชาวบ้านที่ได้รับบาดเจ็บจำนวน 9 ราย รวมเงิน 165,600 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี โดยให้คิดดอกเบี้ยเริ่มตั้งแต่วันที่ได้ยื่นฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย และให้ชำระเงินภายใน 15 วัน
อย่างไรก็ตาม
จำเลยทั้งสองได้เตรียมหลักทรัพย์ขอยื่นประกันตัว เพื่อต่อสู้ในชั้นศาลอุธรณ์ต่อไป
ซึ่งศาลกำลังอยู่ในระหว่างกันพิจารณาว่าจะให้ประกันตัวได้หรือไม่.
http://loeitime.blogspot.com/2013/09/20.html ลิ้งค์ข่าวเดิม
http://loeitime.blogspot.com/2013/09/20.html ลิ้งค์ข่าวเดิม
การทำข่าวควรนำเสนอตามความเป็นจริงไม่ใช่นั่งเทียนเขียนข่าวแบบนี้ให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย นำเสนอข่าวที่เป็นจริงมากกว่ามานั่งเติมแต่งเพื่อให้ข่าวน่าสนใจแบบนี้
ตอบลบประชาชนที่รับฟังข่าวสารจะได้ไม่เข้าใจผิด