เป็นภาพชินตาของชาวมหาวิทยาลัยราชภัฏเลย ที่เห็นนายพุฒิศักดิ์ เสนามนตรี
หรือก็อต อายุ 21 ปี ไปไหนมาไหนและคอยดูแลช่วยเหลือนายเฉลิมพล บุญกอง
หรือแม็ก อายุ 27 ปี เพื่อนนักศึกษาชั้นปีที่
3 เอกภาษาอังกฤษ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย
ในแต่ละวัน ในตอนเช้า ก็อตจะขับรถจักรยานยนต์ไปรับแม็ก
เพื่อนคู่หูต่างวัยที่หอพัก
เพื่อเดินทางเข้าไปเรียนในมหาวิทยาลัย
และคอยดูแลช่วยเหลือในการใช้ชีวิตประจำวันอย่างใกล้ชิด จนกว่าจะส่งแม็กกลับเข้าหอพัก และเข้านอน
โดยทำเช่นนี้มาตลอดเกือบ 3 ปี นับตั้งแต่ยกมืออาสาดูแลแม็กในวันแรกที่เข้ามาเรียน
พุฒิศักดิ์หรือก็อตเล่าว่า เมื่อครั้งเริ่มเข้ามาเรียนตอนปี 1 รุ่นพี่ในคณะก็ถามในที่ประชุมว่า
ใครมีรถจักรยานยนต์และจะอาสาดูแลเพื่อนที่พิการทางสายตาบ้าง ตนก็ยกมือขึ้น โดยที่ไม่รู้ว่า
แม็กตาบอดเกือบสนิท แต่ได้มารู้ทีหลังว่า
เพื่อนคนนี้มองไม่เห็น
รู้สึกเห็นใจและสงสาร จึงคอยดูและช่วยเหลือเขาเรื่อยมา ทั้งการเรียน และการใช้ชีวิตประจำวัน
โดยไม่รู้สึกว่าแม็กเป็นภาระ
กลับรู้สึกมีความสุขที่ได้ช่วยเหลือกัน
และยังทำให้ตนได้รู้จักฝึกฝนตนเองไปในตัวด้วย อย่างเช่น การเรียน ตนก็จะอ่านหนังสือเรียนให้แม็กฟัง ทำให้ได้เราได้ทบทวนความรู้ไปด้วย
ผลการเรียนก็ออกมาดีทั้งสองคน
สิ่งได้ที่ได้จากการช่วยเหลือดูแลแม็กตลอดเวลาสามปีที่ผ่านมา ทำให้เกิดแรงบันดาลใจมากมาย เกิดขึ้นตลอดเวลา
เพราะเห็นว่าแม็กเป็นคนที่ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค แม้จะมีความพิการทางสายตา เรามีอวัยวะครบ 32 ประการ
เราจะไม่สู้ได้ยังไง นอกจากนี้
ทักษะการใช้ชีวิตประจำวันของแม็ก ก็ได้เติมเต็มในส่วนที่ตนเองบกพร่อง เช่น เรื่องการได้ยิน แม็กจะหูดีมาก
บางทีอาจารย์พูดแล้วตนไม้ได้ยิน
แม็กก็จะมาบอกทีหลังว่าอาจารย์พูดว่าอะไรบ้าง
ขณะที่เฉลิมพล
บุญกอง หรือแม็ก
นักศึกษาผู้พิการทางสายตา บอกว่า
ตนเป็นชาวอำเภอนาด้วง จ.เลย จบการศึกษาจากโรงเรียนการศึกษาคนตาบอดขอนแก่น เลือกมาเรียนที่ ม.ราชภัฏเลย
เพราะอยู่ใกล้บ้าน แม่จะได้ดูแลสะดวก
ที่เรียนเอกภาษาอังกฤษเพราะอยากกลับไปเป็นครูสอนน้องๆที่โรงเรียนการศึกษาคนตาบอดขอนแก่น เดิมนั้นไม่ได้ตาบอดตั้งแต่เกิด อุบัติเหตุไม้ทิ่มตาเมื่อตอนอายุ 7 ขวบ
ทำให้กลายเป็นคนพิการ
“ผมจำได้ว่า
วันที่เกิดเหตุ ไปช่วยแม่รับจ้างขุดมันสำปะหลังแถวบ้าน แดดร้อนมาก จึงเข้าร่มหลบแดด
ในจังหวะที่ทิ้งตัวนั่งลงกับพื้น
ลำมันสำปะหลังที่ถูกตัดเป็นปลายแหลมได้ทิ่มตาอย่างแรง แม่ก็รีบพาไปหาหมอ
โดยที่ผมไม่รู้สึกเจ็บปวด
หมอบอกยังผ่าตัดรักษาไม่ได้ ต้องรอให้โตก่อน
เมื่อกลับถึงบ้าน ตอนกลางคืน เลือดไหลไม่หยุด
และเจ็บปวดมาก ตาบวมทั้งสองข้าง
ตื่นเช้ามาโลกก็มืดไปหมด
แต่ตาซ้ายยังมองเห็นแค่แสงบางๆ อยู่บ้าง
ปัจจุบันผมก็เป็นคนไข้ในพระราชานุเคราะห์
รอรับการผ่าตัดรักษา
หัวใจหล่อ..มาก
ตอบลบ