องค์การบริหารส่วนตำบลหนองหญ้าปล้อง อำเภอวังสะพุง
จังหวัดเลย
ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของอำเภอวังสะพุง มีเนื้อที่ 84 ตารางกิโลเมตร มี 20 หมู่บ้าน จำนวนประชากร
16,476 คน 4,740
ครัวเรือน
จากการสำรวจพบว่า ในพื้นที่ตำบลหนองหญ้าปล้อง มีปริมาณขยะมูลฝอยในพื้นที่ทั้งตำบลที่เกิดขึ้นจำนวน 6.6 กิโลกรัม ต่อครัวเรือน ต่อวัน ซึ่งองค์การบริหารส่วนตำบลหนองหญ้าปล้อง
ไม่มีรถเก็บขยะและพื้นที่กำจัดขยะ
ประชาชนต้องกำจัดขยะในครัวเรือนด้วยตนเอง ซึ่งไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการ เช่น การเผา
การฝังกลบ และบางส่วนได้ลักลอบนำไปทิ้งตามที่สาธารณะ
รวมทั้งพื้นที่เอกชน ทำให้เกิดปัญหาความขัดแย้งจากการร้องเรียน และก่อให้เกิดปัญหาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมในชุมชน
จากปัญหาดังกล่าว องค์การบริหารส่วนตำบลหนองหญ้าปล้อง
จึงได้ดำเนินโครงการรณรงค์ปลูกจิตสำนึกให้ประชาชนตระหนักในปัญหานี้ร่วมกัน โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณส่วนหนึ่งจากสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
กองทุนสิ่งแวดล้อม ในปีงบประมาณ 2559-2560
เพื่อลดปัญหาและปริมาณขยะ ด้วยการคัดแยกขยะอินทรีย์ ขยะรีไซเคิล และขยะอันตราย
ตลอดจนเพื่อให้ประชาชนเกิดจิตสำนึกที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีบ้านโคกฝาย หมู่ 10
เป็นพื้นที่นำร่อง มีประชาชาเข้าร่วมโครงการ
240 ครัวเรือน รวมทั้งครู
นักเรียนโรงเรียนบ้านนาดอกไม้มิตรภาพที่ 120 และ โรงเรียนในพื้นที่ใกล้เคียงเข้าร่วมโครงการ
สำหรับ การดำเนินกิจกรรมโครงการประกอบด้วย การฝึกอบรม
การศึกษาดูงานต่างพื้นที่
การรวมกลุ่มทำการแปรรูปขยะเป็นงานฝีมือ และผลิตภัณฑ์ต่างๆ การทำปุ๋ยหมักรองรับขยะอินทรีย์ กิจรรมขยะอันตรายแลกไข่ไก่ การจัดตั้งธนาคารขยะรองรับขยะรีไซเคิล และกิจกรรมผ้าป่าขยะรีไซเคิล โดยดำเนินการร่วมกับวัดสะเทียนทอง
ทั้งนี้ จากการดำเนินโครงการ ทำให้มีปริมาณขยะในตำบลหนองหญ้าปล้องลดลงร้อยละ
8 หรือเหลือเพียง เดือนละ 198,690 กิโลกรัม ส่วนในหมู่บ้านโคกฝาย ซึ่งเป็นพื้นที่นำร่องของโครงการ ปริมาณขยะลดลงกว่าร้อยละ 67
จากผลการดำเนินโครงการ
นับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2558 – เดือนธันวาคม 2559
ระยะเวลาเพียง 14 เดือน
จะเห็นได้ว่า ปริมาณขยะลดลงอย่างน่าพอใจ ประชาชนเกิดความรัก ความสามัคคี สิ่งแวดล้อมภายในชุมชนสะอาดสดใสขึ้น ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ เช่น การทำปุ๋ยหมัก และน้ำหมักชีวภาพไว้ในบำรุงพืชผัก
รวมทั้งมีรายได้จากการนำขยะรีไซเคิลไปร่วมกิจกรรมกับธนาคารขยะ
และที่สำคัญการปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีต่อส่วนร่วมได้เริ่มฝังรากหยั่งลึกเข้าไปสู่ประชาชน
และเยาวชนคนรุ่นใหม่แล้วอย่างยั่งยืน.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น