วันอาทิตย์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

เลยเปิดงานนมัสการพระธาตุศรีสองรักอำเภอด่านซ้าย


เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2560 นายคุมพล บรรเทาทุกข์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เป็นประธาน เปิดงานนมัสการพระธาตุศรีสองรัก ณ บริเวณลานพระธาตุศรีสองรัก อำเภอด่านซ้าย  มีประชาชนชาวจังหวัดเลย และเจ้าเมืองบ่อแตน แขวงไชยะบูลี สปป.ลาว นำคณะเดินทางมาร่วมงานจำนวนหนึ่ง   ในช่วงเช้ามีการทำบุญตักบาตร ทามกลางพลังศรัทธาของประชาชนและนักท่องเที่ยว เข้าร่วมงานในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก
 
นายประยูร อรัญรุท นายอำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย กล่าวว่า อำเภอด่านซ้าย ได้กำหนดจัดงานนมัสการพระธาตุศรีสองรัก ประจำปี 2560 ขึ้นในระหว่างวันที่ 7-10 พฤษภาคม 2560 เป็นเวลา 4 วัน เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปที่เคารพเลื่อมใสศรัทธาและยึดมั่นในองค์พระธาตุศรีสองรัก ได้บำเพ็ญกุศลและนมัสการพระธาตุศรีสองรัก รวมถึงการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของท้องถิ่น 
กิจกรรมสำคัญตลอด 4 วัน ประกอบด้วย พิธีเปิดงานในวันที่ 7 พฤษภาคม วันที่ 8 พฤษภาคม เป็นการประกอบพิธีล้างธาตุและคารวะธาตุ วันที่ 9 พฤษภาคม เปิดให้ประชาชนทั่วไปนมัสการพระธาตุศรีสองรัก และพิธีแห่นาค พิธีทำขวัญนาค ณ วัดโพนชัย และวันที่ 10 พฤษภาคม วัดสุดท้ายของงานเป็นพิธีทำบุญตักบาตร ณ วัดโพนชัย พิธีบูชาพระธาตุ พิธีถวายต้นผึ้งและพิธีสรงธาตุ พิธีเวียนเทียน พิธีจุดบั้งไฟ และบรรพชาอุปสมบท


พระธาตุศรีสองรัก ก่อสร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2103 แล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ.2106 นับเป็นเวลา 457 ปีตั้งแต่มีการก่อสร้างและ 454 ปี นับแต่เริ่มมีการสมโภชครั้งแรก ในรัชสมัยของสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ แห่งกรุงศรีอยุธยา และพระเจ้าไชยเชษฐา แห่งกรุงศรีสัตนาคนหุต อาณาจักรล้านช้าง นับเป็นศาสนสถานศักดิ์สิทธิ์ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นสักขีพยานแห่งการทำสัญญาพระราชไมตรี และเครื่องหมายเขตแดนระหว่างสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ แห่งกรุงศรีอยุธยา และพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชแห่งอาณาจักรล้านช้าง ถือเป็นงานประเพณีและพิธีกรรมที่สำคัญของชาวอำเภอด่านซ้าย พระธาตุศรีสองรักยังเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวไทยและชาวลาว ให้ความเคารพนับถือมาตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบัน

หลังจาก พิธีเปิด มีการรำบวงสรวงของนักเรียนโรงเรียนศรีสองรักวิทยา จำนวน 100 นางรำ และการเต้นรำบาสะโลบ กลุ่ม อสม.ชาวออำเภอด่านซ้าย และชาวลาวที่เดินทางมาร่วม การเต้นรำจังหวะบาสะโลบนั้น เป็นศิลปะในประเทศ สปป.ลาว ปัจจุบันกำลังนิยมโดยทั่วไป.

ภาพ-ข่าว : วสันต์  สุนา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น