เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2562
ที่ศาลากลางหมู่บ้านวังมน หมู่ 5
ต.ภูหอ อ.ภูหลวง จ.เลย
นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย พร้อมด้วยนายเพิ่มศักดิ์ กนิษฐชาติ
หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง
และหัวหน้าส่วนราชการ
ร่วมประชุมรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนกรณีปัญหาช้างป่าจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง
ลงมาสร้างความเสียหายให้แก่พืชผลทางการเกษตร และทำลายทรัพย์สิน บ้านเรือน
ของประชาชนในพื้นที่ตำบลภูหอ
ตำบลเลยวังใส และตำบลแก่งศรีภูมิ อำเภอภูหลวง
โดยเฉพาะที่หมู่บ้านวังมน
ได้รับผลกระทบมากที่สุด
ซึ่งช้างป่าได้เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2561
ปัจจุบันมีจำนวนประมาณ 23-30 ตัว
ที่ผ่านมา ชาวบ้านและหน่วยงานราชการทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันผลักให้กลับคืนสู่ป่าภูหลวง แต่ไม่สำเร็จ ช้างได้อาศัยอยู่ในพื้นที่ป่าและพื้นที่ทางการเกษตรรอบหมู่บ้านวังมน
และหมู่บ้านใกล้เคียง ที่มีแนวเขตติดกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง
จนชาวบ้านไม่สามารถเข้าไปเก็บผลผลิตออกไปขายได้ สร้างความเดือดร้อน ไม่มีเงินไปชำระหนี้สินกับ
ธ.ก.ส. และค่าใช้จ่ายในครัวเรือน
เริ่มขัดสน
ทั้งนี้ ตัวแทนชาวบ้านได้ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเลยช่วยเหลือประสานกับทางรัฐบาลให้พักชำหนี้กับ
ธ.ก.ส. ให้แก่เกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนจากช้างป่า และขอให้จ่ายค่าชดเชยความเสียหาย
เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนในเบื้องต้น
ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดได้รับปาก จะดำเนินการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเร่งด่วน
ส่วนการแก้ปัญหา
ป้องกันไม่ให้ช้างเข้ามาในเขตหมู่บ้าน ขณะนี้กรมอุทยานแห่งชาติแห่งชาติ สัตว์ป่า
และพันธุ์พืช ได้อนุมัติงบประมาณดำเนินการก่อสร้างรั้วไฟฟ้า นอกจากนี้ อบต.ภูหอ อ.ภูหลวง
ซึ่งได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน ได้จัดซื้อจัดจ้างการทำรั้วไฟฟ้า ระยะทาง 2.3
กิโลเมตร พร้อมดำเนินการแล้ว ขณะเดียวกัน
ทางผู้ว่าราชการจังหวัดเลยได้สั่งการให้สนับสนุนงบประมาณ อุปกรณ์ และกำลังเจ้าหน้าที่การเข้าผลักดันช้าง ที่ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ทางราชการกำลังดำเนินการ
จัดเวรยามเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง
ภายหลังการประชุม นายชัยวัฒน์
ชื่นโกสุม
ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย
ได้นำประชาชนจิตอาสา ร่วมกันติดตั้งรั้วไฟฟ้าป้องกันช้าง เพื่อแบ่งเบาภาระของเจ้าหน้าที่
และเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ชาวบ้านด้วย
โดยระหว่างการทำรั้วไฟฟ้า ได้พบร่องรอยช้างเข้ามาในพื้นที่หมู่บ้าน และยังพบว่า
ขณะที่คณะผู้ว่าราชการจังหวัดมาทำกิจกรรมจิตอาสา
ได้มีช้างป่าจำนวนประมาณ 20 ตัว พากันมาเล่นน้ำในหนองน้ำกลางป่าชุมชน ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ
700 เมตร
ด้านตัวแทนเกษตรที่ได้รับความเดือดร้อนจากช้างป่า
ได้นำผู้สื่อข่าวลงพื้นที่การเกษตร ที่ได้ปลูกพืชหลายชนิด เช่น มันสำปะหลัง มะขาม ข้าว
และอ้อย โดยเล่าวว่า
ก่อนหน้านี้ประมาณเดือนตุลาคม 2561 เริ่มมีช้างเข้ามา และเพิ่มมากขึ้นเรื่อย
กัดกินมันสำปะหลัง กินกล้วย เหยียบทำลายท่อน้ำ และกระท่อมพังราบ ชาวบ้านหวาดกลัวมาก
ไม่กล้าออกไปชุดมันสำปะหลัง กรีดยาง เก็บมะขามหวาน เก็บข้าวโพด และทำนาข้าว ปล่อยเป็นป่ารกร้าง ล่าสุดเมื่อต้นเดือน
ช้างได้เข้ามาและวนเวียนอยู่ในไร่ของตนกว่า 30 ตัว เพราะมีแหล่งน้ำ
ไม่ยอมกลับภูหลวง ตอนนี้ตนเดือดร้อนมาก
ไม่มีเงินไปใช้หนี้ ธ.ก.ส. และไม่รู้ว่าปีนี้จะมีข้าวกินหรือไม่
เพราะไม่กล้าไปทำนา ชาวบ้านวังมนทั้ง
นอนตอนกลางคืนก็อยู่อย่างหวาดผวา ได้ยินเสียงช้างร้องรอบหมู่บ้าน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น