ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2562 ให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลัก บูรณาการร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน โดยสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินจำเป็น จำนวน 15,800
ล้านบาท แบ่งเป็น 74 จังหวัด ๆ ละ 200 ล้านบาท และสำหรับจังหวัดสุรินทร์ และบุรีรัมย์ อนุมัติช่วยแก้ไขน้ำแล้ง 500
ล้านบาท
สำหรับจังหวัดเลย
ได้รับอนุมัติงบประมาณครั้งนี้จำนวนทั้งสิ้น 199,734,000 บาท (หนึ่งร้อยเก้าสิบเก้าล้านเจ็ดแสนสามหมื่นสี่พันบาทถ้วน)
โดยแยกการจัดสรรงบประมาณกระจายไปยัง 17 หน่วยงาน ประกอบด้วย
สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.เลย 142 โครงการ วงเงิน
110,774,600 บาท
, อำเภอปากชม 19 โครงการ วงเงิน 6,846,000 บาท , อำเภอภูกระดึง 17 โครงการ วงเงิน 7,949,300 บาท , อำเภอเชียงคาน 21
โครงการ วงเงิน 6,317,200
บาท , อำเภอด่านซ้าย 12 โครงการ วงเงิน 6,955,100 บาท , อำเภอหนองหิน 14 โครงการ
วงเงิน 5,316,200 บาท , อำเภอเมืองเลย 35
โครงการ วงเงิน 8,556,400 บาท
อำเภอนาด้วง
8 โครงการ วงเงิน 2,262,400 บาท , อำเภอท่าลี่ 17 โครงการ
วงเงิน 4,958,500 บาท , อำเภอวังสะพุง 26 โครงการ
วงเงิน 7,017,500 บาท , อำเภอผาขาว 31 โครงการ วงเงิน 8,998,000 บาท , อำเภอนาแห้ว 22 โครงการ วงเงิน 7,839,600 บาท , อำเภอภูหลวง 13 โครงการ
4,628,400 บาท , อำเภอเอราวัณ 23 โครงการ วงเงิน 5,970,300 บาท , และอำเภอภูเรือ 19 โครงการ
วงเงิน 5,344,600 บาท รวม 419 โครงการ
ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการเจาะบ่อน้ำบาดาล เป่าล้าง และขุดลอกแหล่งน้ำสาธารณะ
ทั้งนี้ หลังการประกาศวงเงินและจำนวนโครงการ ได้มีผู้ประกอบการรับจ้างขุดเจาะน้ำบาดาลร้องเรียนต่อสื่อมวลชน
ตั้งข้อสังเกตหลายประการ โดยเฉพาะจากการตรวจเอกสารโครงการในบางอำเภอ
พบว่าการประมาณราคารับเหมาดำเนินการ ค่าจัดซื้อวัสดุราคาสูงกว่าท้องตลาด
ส่อให้เห็นว่าอาจจะมีการกระทำที่ไม่โปร่งใส การตรวจสอบโครงการนี้ ต้องให้ภาคประชาสังคมเข้าร่วมด้วย โดยเฉพาะขั้นตอนการลงท่อ หากไม่ดูแลใกล้ชิด อาจได้ท่อที่มีคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐาน และไม่ครบตามจำนวน
ขณะเดียวกัน
มีการแบ่งการจัดซื้อจัดจ้างออกเป็นโครงการย่อยๆ ไม่เกิน 500,000 บาท เพื่อหลีกเลี่ยงการการจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์(e-bidding) และยังมีการให้ข้อมูลอีกว่า
มีกลุ่มบุคคลเข้ามาจัดสรรแบ่งบันงบประมาณจำนวนนี้ด้วยวิธีพิเศษ
มีการหักค่าหัวคิวหลายทอด รวมประมาณ 35 เปอร์เซ็นต์ จนผู้รับเหมาหลายรายไม่สามารถเข้าประมูลงานได้
เพราะหากได้รับงานแล้วจะทำให้ขาดทุนอย่างหนัก ผู้ร้องเรียนระบุ
นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม
ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เปิดเผยถึงกรณีนี้ว่า เราได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาล
เนื่องจากว่าจังหวัดเลยมีปริมาณน้ำฝนเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยและก็เทียบกับปีที่ผ่านมาค่อนข้างน้อย
ทำให้จังหวัดเลยประสบปัญหาน้ำแล้ง
เพราะฉะนั้นงบประมาณที่ได้มา ก็ต้องมุ่งไปที่ประเด็นสำคัญที่สุดก็คือ น้ำกินน้ำใช้ ซึ่งตนได้ให้โจทย์กับผู้เกี่ยวข้องไปว่า ขอให้บริหารจัดการน้ำกินน้ำใช้ให้พี่น้องประชาชนได้ถึงเดือนมิถุนายน เพราะเราคาดการณ์ว่าฝนจะตกในรอบปีต่อไป ประมาณเดือนพฤษภาคม
ซึ่งงบทั้งหมดนี้จะถูกนำไปใช้ในลักษณะคือ เรื่องเจาะบ่อบาดาลกับเรื่องขุดลอก เพื่อที่จะมีแหล่งเก็บกักน้ำ
สำหรับกรณีที่มีผู้ร้องเรียนว่าการใช้งบประมาณก้อนนี้มีกลุ่มบุคคลบางกลุ่มขอไปบริหารจัดการเองนั้นไม่มีเรื่องแบบนั้นแน่นนอน การจัดซื้อจัดจ้างก็จะทำในลักษณะตกลงราคา
และจัดจ้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เน้นเรื่องการมีส่วนร่วมของประชาชน ชอบด้วยระเบียบกฎหมาย รวมทั้งเอาหมู่บ้านที่ขาดแคลนเป็นหลัก เป็นเรื่องของการเสนอความต้องการผ่านมายังส่วนราชการองค์กรปกครองท้องถิ่น และผู้ที่ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างทั้งหมดก็เป็นอำเภอ
เป็นที่ทำการปกครองอำเภอ
หลังจากนั้นก็จะมีการตรวจสอบและประเมินผล เนื่องจากว่างบตัวนี้เราต้องการที่จะเอาไปแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ต้องให้ตรงกับสิ่งที่พี่น้องประชาชนต้องการจริงๆ โดยเราได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็น
ส.ต.ง. , ป.ป.ช. และภาคการศึกษา จะร่วมกันประเมินและตรวจสอบให้เป็นไปตามสัญญาข้อตกลง
คือต้องเจาะให้ได้ความลึก 100 เมตร
เพราะจากการสอบถามประชาชนแล้ว หากเจาะเพียง 50 เมตร จะมีน้ำไม่เพียงพอ นายชัยวัฒน์กล่าว.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น