จากกรณีอุบัติเหตุ
ด.ช.วิทยา กันแสน หรือน้องแสตมป์ อายุ 12 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29 หมู่ 20
บ้านโพนทองพัฒนา ต.ทรายขาว อ.วังสะพุง จ.เลย ขับรถกระบะเลยโค้งชนกำแพงบ้านของนายเสนาะ ธูปกระจ่าง
แล้วกระเด็นออกจากรถ ได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลวังสะพุง
เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. วันที่ 1 มกราคม 2563 นั้น
นายเสนาะ ธูปแจ่ม
เจ้าของบ้านเล่าว่า
ก่อนเกิดเหตุญาติและเพื่อนบ้านได้พากันนั่งกินดื่มฉลองปีใหม่กันอยู่หน้าบ้าน ส่วนตนกำลังสตาร์ทรถจักรยานยนต์เอาข้าวไปให้ภรรยา
ขณะที่จะออกตัวรถจักรยานยนต์ ก็ได้ยินเสียงโครมดังมาก
ตามมาด้วยรถกระบะลอยหมุนบนอากาศแล้วมาตกที่ด้านหน้ารถจักยานยนต์ของตน หลังจากนั้น
ตนและทุกคนที่นั่งอยู่หน้าบ้าน พากันออกมาดูในรถ ไม่พบคนขับ
แต่เมื่อเดินไปดูที่ข้างรั้วเห็น ด.ช.วิทยา กำลังนอนหายใจรวยระริน เลือดออกปาก
ออกจมูก จึงรีบโทรบอกตำรวจและรถพยาบาลมารับ
เหตุการณ์นี้
ตนถือว่าเฉียดตาย เพราะถ้าขับรถจักรยานยนต์ออกไป
ก็คงถูกรถกระบะที่ลอยมาทับพอดี
ขณะเดียวกัน ตามปกติแล้วทุกปีใหม่
ตนและเพื่อนบ้านจะนั่งกินเลี้ยงฉลองกันตรงจุดที่รถกระบะร่วงลงมาพอดี แต่ปีนี้ โชคดีที่พากันนั่งกันอยู่ระเบียงหน้าบ้าน
ไม่เช่นนั้นคงตายหมู่
ตั้งแต่ตนมาอยู่ที่นี่
18 ปี ที่ผ่านมา โค้งบริเวณนี้ไม่เคยมีอุบัติเหตุ ครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรก ส่วนเรื่องค่าเสียหาย คงไม่เรียกเก็บจากญาติผู้ตาย
เพราะคิดว่ามันเป็นอุบัติเหตุ ทางนั้นก็สูญเสียแล้ว ไม่อยากซ้ำเติมกัน หลังจากนี้จะทำบุญบ้านเสริมศิริมงคล
และไม่กลัวว่าจะมีตัวตายตัวแทน
นายเสนาะกล่าว
ส่วนที่บ้านเลขที่
29 หมู่ 20 บ้านโพนทอง สถานที่จัดงานศพ ด.ช.วิทยา บรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า
มีญาติและเพื่อนบ้านมาช่วยกันเตรียมงานพิธีสวดทางสงฆ์ในช่วงเย็น
นางนัทชา กันแสน
อายุ 42 ปี แม่ของ ด.ช.วิทยา เล่าว่า หลังจากเกิดเหตุตนก็รีบไปดูลูก
สภาพลูกน่าสงสารมาก เลือดออกเต็มไปหมด พยายามปลุกลูกให้ตื่น ซึ่งก่อนหน้านั้น
ลูกชายได้ไปงานมิตติ้ง ฉลองปีใหม่กับเพื่อนๆ ที่ทุ่งนาท้ายหมู่บ้าน
แม่ได้เตือนแล้วว่าไม่ให้เอารถออกไปขับ เพราะเป็นช่วงเทศกาล มันอันตราย
ปกติก็จะเตือนลูกเช่นนี้ทุกครั้ง แม้ไม่ใช่ช่วงเทศกาล เพราะลูกยังเด็ก
ไม่มีใบขับขี่
บ่อยครั้งตนและคุณตาต้องซ่อนกุญแจรถไว้ ไม่อยากให้ลูกขับออกไป แต่บางครั้งก็ทำไม่สำเร็จ
ถ้าขับออกไป ก็จะให้พี่ชายเขาออกไปตามกลับบ้านทุกครั้ง แต่ก็ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุ
ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก
นางนัทชากล่าวอีกว่า ลูกชายขับรถถือว่าแข็งแล้ว เขาเริ่มขับเป็นตั้งแต่อายุ
8-9 ขวบ ส่วนใหญ่อาศัยอยู่กับคุณตา คุณตาเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก
ส่วนสามีของตนหรือพ่อของน้องแสตมป์เสียชีวิตไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว รถที่เกิดเหตุก็เป็นของคุณตา
ลูกชายสามารถขับรถได้หลายประเภท ว่างจากการเรียนหนังสือ ก็จะไปช่วยครอบครัวขับรถอีแต๋นขนยางก้อนถ้วย
และอ้อย ชอบเรื่องราวทุกอย่างเกี่ยวกับรถ ก่อนเกิดเหตุ
ลูกชายไม่ได้เมาเหล้า เพราะปกติก็ไม่กินอยู่แล้ว
นางนัทชากล่าว.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น