เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2563 ที่หน้าศาลากลาง จ.เลย ชาวบ้านคอนสา หมู่ 4 และบ้านสาธร หมู่ 10 ต.เชียงกลม อ.ปากชม จ.เลย
กว่า 100 คน
เดินทางเข้ายื่นหนังร้องเรียน
เนื่องจากได้รับควาเดือดร้อนที่กลุ่มนายทุนเข้าปักหลักเขตประทานบัตรเหมืองแร่ทับที่ดินทำกิน
และพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ซึ่งเป็นต้นน้ำลำธาร
โดยกลุ่มชาวบ้านได้พากันนั่งรอนายชัยวัฒน์
ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย
ที่บริเวณบันไดทางขึ้นอาคารศาลากลาง
หลังจากนั้นประมาณ 30 นาที ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย
ได้เดินทางมาพบกับกลุ่มชาวบ้าน พร้อมด้วยนายโสภณ
สุรรณรัตน์
รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย
นายภัทราวุธ มณีรัตน์ อุตสาหกรรมจังหวัดเลย และเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด
หนังสือร้องเรียนระบุว่า เนื่องด้วย
มีนายทุนเข้ามาทําการรังวัด ฝังเสาในเขตพื้นที่ทํากินของชาวบ้าน ราษฎร หมู่ 4
และหมู่ 10 ตําบลเชียงลม อําเภอปากชม จังหวัดเลย โดยให้ค่าจ้างแรงงานวันละ 500 บาท
แก่คนในหมู่บ้านอื่น ซึ่งไม่ใช่เจ้าของพื้นที่ นําพาเข้ามา
และมีการข่มขู่ชาวบ้านอีกว่าห้ามทําลายสิ่งของทางราชการ ในการนําเสามาฝัง รังวัดครั้งนี้
บอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ มาจากอุตสาหกรรมจังหวัดเลย
ซึ่งเป็นการกระทําที่ข้ามขั้นตอนของทางราชการและเข้าไปกระทําโดยไม่มีการบอกกล่าวกับ
เจ้าของพื้นที่ทํากินก่อน เป็นการย่ำายีหัวใจของชาวบ้าน
ชาวบ้านต้องการทํามาหากินอย่างสงบสุขไม่ต้องการให้นายทุนเข้ามา
กระทําการอื่นใดที่ไม่ถูกต้องเพราะเป็นพื้นที่ทํากินมาเนิ่นนานตั้งแต่ ปู่ย่าตายาย
ตกทอดมาสู่รุ่นลูกหลาน
ชาวบ้านทุกคนไม่ ต้องการให้เกิดเหมืองแร่ในพื้นที่
เพราะทุกคนทราบดีว่าผลกระทบจะตามมาแน่นอนและพื้นที่ที่เป็นแหล่งต้นน้ำลําธาร
ป่าอนุรักษ์ ป่าน้ำซึมซับที่อุดมสมบูรณ์ที่ชาวบ้านควรอนุรักษ์และรักษาไว้ ซึ่งชาวบ้านคอนสาหมู่ 4 และบ้านสาธรหมู่ 10
ตําบลเชียงกลม เคยได้จัดเวทีประชาคมไปแล้ว
และได้ส่งรายงานผลการจัดทําประชาคมแจ้งไปยังหน่วยงานราชการต่างๆทั้งระดับตําบล
อําเภอและจังหวัดเลยให้ทราบแล้วเมื่อ กันยายน 2559
ซึ่งมติที่ประชุมครั้งนั้นสรุปได้ว่า
ไม่ให้บริษัทเอกชนใดๆหรือกลุ่มบุคคลใดหรือหน่วยงานใดๆเข้าไปดําเนินการ
ใดๆเกี่ยวกับเหมืองแร่ในพื้นที่ดังกล่าว
นายภัทราวุธ มณีรัตน์
อุตสาหกรรมจังหวัดเลย กล่าวว่า
ทางสำนักงานฯหรือทางราชการไม่ได้เข้าไปดำเนินการรังวัด
ปักเสาตามที่ชาวบ้านร้องเรียน พื้นที่ดังกล่าวมีบริษัทเอกชนยื่นขออาชญาบัตรผูกขาดสำรวจแร่เท่านั้น
ยังไม่ได้รับประทานบัตรทำเหมืองแร่แต่อย่างใด
ในวันนี้ตนและเจ้าหน้าที่จะเข้าไปตรวจสอบ และถอนหลักเขตออก
ยืนยันว่าขั้นตอนการขออนุญาตขอประทานบัตรทำเหมืองแร่ยังเหลืออีหลายขั้นตอน
ท้ายที่สุดก็อยู่ที่ประชาชน หากมีผู้คัดค้านเพียงคนเดียว ก็ถือเป็นอันสิ้นสุด
ไม่สามารถจะทำเหมืองแร่ได้
ทั้งนี้ หลังการยื่นหนังสือ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย
ได้สั่งการให้อุตสาหกรรมจังหวัดเลย
กอ.รมน.เลย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินทางไปตรวจสอบในพื้นที่ทันที
สร้างความพอใจให้แก่ชาวบ้าน ก่อนแยกย้ายกันกลับไปรอการดำเนินการของเจ้าหน้าที่.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น