เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ศาลกลางจังหวัดเลย ชาวบ้านกลาง ต.ปากตม อ.เชียงคาน
จ.เลย ในนามกลุ่มฮักแม่น้ำเลย
จำนวนกว่า 100 คน
เดินทางมาชุมนุมประท้วงคัดค้านโครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำศรีสองรัก โดยมีการนำป้ายเขียนข้อความต่างๆ
พร้อมพูดผ่านเครื่องขยายเสียงเรียกร้องให้กรมชลประทานชะลอโครงการออกไปก่อน
จนกว่าจะมีการศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและทางสังคมให้รอบด้าน ครบถ้วนเสียก่อน
โดยมีนายชัยเจ้าหน้าที่สังกัดกรมชลประทาน และนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม
ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย มารับฟังปัญหาข้อร้องเรียน ซึ่งกลุ่มชาวบ้านยืนยันจะขอพบกับอธิบดีกรมชลประทาน
หากไม่ได้ข้อสรุปก็จะปักหลักพักค้างอยู่หน้าศาลางกลาง
ทั้งนี้ ระหว่างการพูดคุยอยู่หน้าศาลากลาง เพื่อให้นายยุทธนา มหานุกูล
ผู้อำนวยการสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 7 ในฐานะผู้ดูแลโครงการก่อสร้าง ติอต่อทางโทรศัพท์กับผู้บริหารระดับสูงในกรมชลประทาน ผู้ว่าราชการจังหวัดเลยถึงกับออกอาการโมโห เพราะนายยุทธนาทำด้วยความล่าช้า
แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมกล่าว่า ขณะนี้โครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำศรีสองรักได้เริ่มดำเนินการแล้ว
โดยไม่ฟังเสียงทักท้วงคัดค้านของชาวบ้าน
ซึ่งหมู่บ้านกลางจะเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด
ทั้งด้านสิ่งแวดล้อมในแม่น้ำเลยที่เปลี่ยนแปลงไป
ระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นในฤดูน้ำหลากจนท่วมหมู่บ้านและพื้นที่ทางการเกษตร ซึ่งจะส่งผลกระทบทั้งด้านวิถีชีวิตของชาวบ้าน
นำไปสู่การล่มสลายของชุมชนชาวไทพวนที่เคยอยู่อย่างสงบสุขมานานกว่า 100 ปี ซึ่งประเด็นข้อกังวลเหล่านี้
ที่ผ่านมา กรมชลประทานยังไม่เคยลงมาศึกษาผลกระทบอย่างจริงจัง และไม่สามารถยืนยันอย่างเป็นทางการหรือลายลักษณ์อักษรว่าหลังการก่อสร้างแล้วจะไม่มีผลกระทบต่อชุมชนตามที่ชาวบ้านเป็นกังวล ขณะเดียวกัน ตลอดเวลาของการเข้ามาเตรียมโครงการก่อสร้าง
และจนถึงปัจจุบัน ได้เกิดความขัดแย้งในชุมชนอย่างรุนแรง ทั้งชาวบ้านด้วยกันเอง
และชาวบ้านกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ
ดังนั้นจึงอยากขอให้ทางกรมชลประทานชะลอหรือยุติโครงการไว้ก่อน
แล้วไปดำเนินการศึกษาผลกระทบด้านต่างๆให้ครบถ้วนเสียก่อน
ทั้งนี้ กลุ่มชาวบ้านได้ปักหลักประกอบอาหารเที่ยงรับประทานอยู่บริเวณหน้าศาลากลาง
และชุมนุมต่อในช่วงบ่าย จนกระทั่งเวลา 18.00 น. นายเสริมชัย
เซียวศิริถาวร ผู้อํานวยการสํานักพัฒนาโครงการแหล่งน้ำขนาดใหญ่ กรมชลประทาน
ได้เดินทางมาพบกับกลุ่มชาวบ้าน โดยได้เปิดห้องประชุมชั้น 5 บนศาลากลาง รับฟังข้อเสนอของชาวบ้าน
กลุ่มฮักแม่น้ำเลย ได้ยื่นข้อเรียกร้องต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ผ่านนายเสริมชัย
3
ข้อประกอบด้วย 1 .กำชับให้ สั่งการให้ กรมชลประทานจัดเวทีสาธารณะเพื่อหาทางออกจากสถานการณ์ปัญหาที่เกิดขึ้น
และตั้งคณะกรรมการศึกษาถึงความคุ้มค่าของโครงการฯ มานําเสนอในเวทีสาธารณะดังกล่าว
โดยรูปแบบของการจัดเวที ต้องได้รับการยอมรับจาก กลุ่มชาวบ้าน ส่วนราชการ
และภาคประชาสังคม ที่เกี่ยวข้อง , 2.ขอให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมศึกษาและประเมินผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมและ
สุขภาพของประชาชนหรือชุมชน ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 58 ของโครงการ ประตูระบายน้ำศรีสองรัก
อ.เชียงคาน จ.เลย ที่ครอบคลุมชุมชนลุ่มน้ำเลย 74 หมู่บ้าน
ที่ตั้งถิ่นฐานตามแนวแม่น้ำเลยตอนบน ตอนกลาง และตอนล่าง
และ 3. ขอให้ออกคําสั่งให้กรมชลประทานยุติกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโครงการประตูระบาย
น้ำศรีสองรัก อ.เชียงคาน จ.เลย
เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในพื้นที่ดําเนินโครงการฯ ซึ่งผู้อํานวยการสํานักพัฒนาโครงการแหล่งน้ำขนาดใหญ่ กรมชลประทาน ได้ลงนามในบันทึกข้อร้องเรียนดังกล่าวเป็นลายลักษณ์อักษร โดยจะดำเนินการข้อ 1 และ 2
ภายใน 30 วัน ส่วนข้อที่ 3 จะนำไปหารือกับส่วนที่เกี่ยวข้อง ว่าจะสามารถดำเนินการได้หรือไม่อย่างไร
ภายหลังการประชุม ชาวบ้านได้แสดงความพอใจ ก่อนแยกย้ายกันกับบ้าน หากภาย
30
วัน กรมชลประทานไม่ดำเนินการตามข้อเรียกร้อง จะเดินทางไปชุมนุมยื่นหนังสือกับนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาลต่อไป
ข้อมูลจากเว็บไซต์ ศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดนายกรัฐมนตรี ระบุว่า โครงการประตูระบายน้ำศรีสองรัก จังหวัดเลย ใช้ระยะเวลาดำเนินการ 6 ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 – 2564) คือ 1.ดำเนินการเตรียมความพร้อมโครงการและสำรวจปักหลักเขต ในปี พ.ศ. 2559 , 2. ดำเนินการก่อสร้างประตูระบายน้ำและอาคารประกอบพร้อมส่วนประกอบอื่น ใช้ระยะเวลาดำเนินการ 5 ปี (พ.ศ. 2560-2564) , 3. ดำเนินการก่อสร้างสถานีสูบน้ำและระบบท่อส่งน้ำ ใช้ระยะเวลาดำเนินการ 3 ปี (พ.ศ. 2562-2564) ภายใต้งบประมาณ 5 พันล้านบาท โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2559 จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2564.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น