วันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

ลาว-เวียดนามจับมือผุดเขื่อนหลวงพระบางกั้นน้ำโขง คนเชียงคานหวั่นซ้ำเติมแล้งหนักกว่าเดิม (ชมคลิป)



เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2563  ที่ศาลาประชาคมอำเภอเชียงคาน จ.เลย  สํานักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.)  จัดเวทีให้ข้อมูลโครงการไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนหลวงพระบาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว)  มีนายปัญญา  วงศ์ศรีแก้ว  รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย  กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุม  โดยมีผู้แทนจากเครือข่ายภาคประชาชน ลุ่มแม่น้ำโขงจังหวัดเลยและจังหวัดเชียงรายเข้าร่วมกว่า 150 คน  ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่จากกรมบ่อแร่และกรมธรณีศาสตร์และแร่ธาตุ สปป.ลาว เข้าร่วมให้ข้อมูลการสร้างเขื่อนหลวงพระบางด้วย



นายประดับ  กลัดเข็มเพชร  รองเลขาธิการสํานักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ในฐานะรองเลขาธิการสํานักเลขาธิการคณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย  กล่าวว่า  การจัดเวทีครั้งนี้ ได้ดำเนินการตามระเบียบ ปฏิบัติ เรื่อง การแจ้งการปรึกษาหารือล่วงหน้า และข้อตกลง (Procedures for Notification, Prior Consultation and Agreement: PNPCA)  ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ดำเนินการจัดเวทีมาแล้ว 2 ครั้ง ที่จังหวัดนครพนม และจังหวัดอำนาจเจริญ  และครั้งนี้ที่อำเภอเชียงคาน  ถือว่าพื้นที่สุดท้ายของการจัดเวที  มีวัตถุประสงค์เพื่อชี้แจงความเป็นมาของระเบียบปฏิบัติ ข้อมูลโครงการไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนหลวงพระบาง สปป.ลาว ตลอดจนรับฟังข้อห่วงกังวลจากทุกภาคส่วน รวบรวมนำเสนอให้แก่ คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (Mekong River Commission: MRC)  รัฐบาลไทย นำเสนอต่อไปให้ทางรัฐบาล สปป.ลาว เพื่อพิจารณาปรับปรุงโครงการให้เหมาะสมต่อไป




 สำหรับข้อกังวลต่อการสร้างเขื่อนหลวงพระบางในเวทีครั้งนี้  ตัวแทนประชาชนเครือข่ายแม่น้ำโขง และผู้มีส่วนได้เสีย ได้แสดงความเป็นห่วงว่า จะมีผลกระทบต่อพันธุ์ปลา  การขึ้น-ลงของน้ำผันผวน  และระบบนิเวศน์ธรรมชาติในแม่น้ำโขงจะเปลี่ยนแปลงไป พร้อมเรียกร้องให้ผู้ดำเนินโครงการก่อสร้างเขื่อน ตระหนักถึงปัญหาการขาดแคลนน้ำให้มากที่สุด  เพราะที่ผ่านมาก็เห็นมาแล้ว ผลกระทบจากการสร้างเขื่อนไซยะบุรี ทำให้พื้นที่แม่น้ำโขงท้ายเขื่อน แห้งแล้งอย่างมาก




ทั้งนี้  การก่อสร้างเขื่อนหลวงพระบาง ที่ตั้งโครงการอยู่ที่หมู่บ้านห้วยโง  แขวงหลวงพระบาง  ห่างจากปากแม่น้ำอู 4 กิโลเมตร  ห่างจากเขื่อนไซยะบูลี 130 กิโลเมตร  อยู่กึ่งกลางระหว่างเขื่อนไซยะบูรีกับเขื่อนปากแบง ลักษณะของเขื่อนเป็นแบบรันออฟริเวอร์ แบบขั้นบันได สันเขื่อนสูง 79 เมตร กว้าง 195 เมตร  มีกำลังการผลิตไฟฟ้าอยู่ที่ 1,460 เมกวัตต์  มุ่งส่งออกไฟฟ้าไปจำหน่ายในประเทศไทยและเวียดนาม  ดำเนินการก่อสร้างโดยบริษัทหลวงพระบางพาวเวอร์จำกัด ซึ่งจัดตั้งโดยรัฐบาล สปป.ลาว และบริษัทเปโตรเวียดนามพาวเวอร์จำกัด  ระยะเวลาก่อสร้าง 7 ปี  นับจากปี 2563.







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น