จากการที่เกิดเหตุไฟไหม้ป่าบนยอดภูกระดึงเมื่อวันที่ 16-17 กุมภาพันธ์
2563
สร้างความเสียหายให้พื้นทุ่งหญ้า ป่าสน รวมกว่า 3,400 ไร่ เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังกันกว่า 200 นาย
ช่วยกันเข้าดับไฟจนประสบความสำเร็จ
แต่ยังต้องเฝ้าระวังไฟป่าที่ยังคงหลงเหลือตามแนวดำ
และไฟป่าที่ถูกจุดจากด้านล่างอาจลุกลามขึ้นไปด้านบนอีกครั้งนั้น ซึ่งการทำงานของเจ้าหน้าที่เป็นไปด้วยความยากลำบาก
เพราะต้องเดินเท้าขึ้นยอดภู
ยานพาหนะมีอย่างจำกัด และแหล่งน้ำก็มีไม่เพียงพอนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 กำลังพลจากมณฑลทหารบกที่ 28 ค่ายศรีสองรัก จ.เลย
ร่วมกับเจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าภูกระดึง
ได้ช่วยกันหาบรถจักรยานยนต์จำนวน 2 คัน ที่ได้รับการส่งมอบจากกรมอุทยานแห่งชาติ
สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ตามคำสั่งของอธิบดีฯ
หลังจากการตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่เมื่อสองวันที่แล้ว เพื่อให้การติดตามดับไฟป่าเป็นไปอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยเจ้าหน้าที่ได้มัดรถเข้ากับคานไม้
เมื่อเดินถึงจุดทางราบ ก็จะถอดรถออกมาขับขี่ เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้แรงมากจนเกินไป
จนกระทั่งเวลา 14.00 น.
เจ้าหน้าที่ไฟป่าและทหารได้พารถจักรยานยนต์ทั้งสองคัน ผ่านซำสุดท้าย
ที่ถือว่าเป็นช่วงยากลำบากที่สุด และถึงจุดหมายบนหลังแปได้สำเร็จ
ในเวลา 14.30 น. ใช้เวลารวม 7 ชั่วโมงเต็มท่ามกลางเสียงโห่ร้องยินดีของเจ้าหน้าที่
พลางเอามือลูบไล้ไปที่รถจักรยานยนต์ พร้อมบอก “ปลอดภัยแล้วเด้ออีหล่า...”
ส่วนสถานการณ์ไฟที่กำลังไหม้ด้านล่าง ในเขตอุทยานแห่งชาติภูกระดึง
ล่าสุดได้สงบลงทุกด้านแล้ว
หลังจากเมื่อสามวันที่แล้วยังคงมีไฟครุกรุ่น ลุกลามจากฝั่งขวาของภูกระดึง
ที่เป็นแนวเขตติดต่อกับบ้านอีเลิศ
ต.ศรีฐาน อ.ภกระดึง ซึ่งกำลังพลจากมลฑลทหารบกที่ 28 กว่า 50 นาย
ได้เข้าบูรณาการกำลังกับเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่สังกัดสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่
8 ขอนแก่น เข้าสกัดไฟไม่ให้ลุกลามขึ้นด้านบนยอดภู
ซึ่งบริเวณนี้อยู่ใกล้กับจุดกึ่งกลางรูปหัวใจภูกระดึง เป็นพื้นที่ป่าปิด มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่มากมาย
หากไฟป่าลุกลามขึ้นไปได้แล้วก็จะเกิดความเสียหายซ้ำเติมอย่างใหญ่หลวง.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น