เมื่อวันที่ 13 มีนาคม
2563 ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข
(EOC) สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเลย นายชัยวัฒน์
ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย
เป็นประธานที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดเลย โดยมีนายแพทย์ปรีดา วรหาร
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเลย และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมด้วย ขณะเดียวกันเป็นประชุมวิดีโอคอนเฟอร์เรนท์ร่วมกับนายอำเภอทั่วจังหวัดด้วย
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้สรุปสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ในพื้นที่จังหวัดเลย ขณะนี้ยังไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อแต่อย่างใด โดยขณะนี้มีผู้ป่วยสะสม
70 ราย รายใหม่ 11 ราย เสียชีวิต 1 ราย ส่วนในพื้นที่จังหวัดเลย ขอยืนยันว่ายังไม่พบผู้ป่วย มีเพียงผู้ป่วยเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังจำนวนสะสม
13 ราย ไม่พบเชื้อ 12 ราย เพิ่มใหม่ 1 ราย ซึ่งกำลังรอผลการตรวจ ซึ่งเป็นชายอายุ
23 ปี ไปทำงานอยู่ประเทศญี่ปุ่น 3 ปี
เพิ่งกลับมาบ้านที่จังหวัดเลย วันที่ 3 มีนาคม 2563 เริ่มมีอาการป่วยวันที่ 10 มีนาคม 2563 แล้วเข้ามารักษาที่โรงพยาบาลเลย มีอาการไข้ ไอ ระคายคอ มีน้ำมูก ขณะนี้ได้พักรักษาตัวอยู่ที่ห้องแยกโรค
โรงพยาบาลเลย
คาดว่าผลตรวจจะออกมาในช่วงเย็นวันนี้
ส่วนผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศเข้ามายังจังหวัดเลย ขณะนี้มียอดสะสม 96 ราย เพิ่มใหม่ 49 ราย
ติดตามได้ 93 ราย อยู่ต่างจังหวัด 3 ราย ติดตามครบ 14 วันแล้ว 25 ราย และการคัดกรองผู้เดินทางผ่านเข้า-ออกจังหวัดเลย
คัดกรองตามจุดผ่านแดน และท่าอากาศยานเลย รายใหม่จำนวน 887 ราย รวมจำนวนสะสมทั้งหมด
33,536 ราย ซึ่งคาดว่าผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ทั้งนี้ หลังจากที่มีคำสั่งจากส่วนกลางให้ยกเลิกศูนย์กักกันฯ
ในทุกพื้นที่ จึงให้บุคคลที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ
ต้องทำการกักตัวเองอยู่ที่บ้านเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 14 วัน โดยแบ่งเป็น 2 กรณี คือ กลับมาจากพื้นที่ที่มีการระบาดอย่างหนัก(ตามประกาศ)
ให้กักตัวที่บ้านแบบเด็ดขาด (Home Quarantine)โดยมอบหมายทางนายอำเภอและฝ่ายปกครองจังหวัดจัดทีมดูแลเรื่องอาหาร
น้ำดื่ม การเข้าเยี่ยมผู้ป่วยของญาติ
และวางแนวทางจัดเก็บขยะโดยการแยกขยะทั่วไปและขยะติดเชื้ออย่างเป็นระบบ
ส่วนกรณีเดินทางกลับมาจากประเทศที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่เสี่ยง
ให้กักกันตัวที่บ้านแบบอนุโลม
หากต้องการออกจากที่พักต้องมีการแจ้งต่อเจ้าหน้าที่เพื่อพิจารณาเป็นรายบุคคล
โดยเบื้องต้นห้ามผู้กักตัวออกนอกบริเวณสถานที่กักกันโดยเด็ดขาดจนครบ 14 วัน นับจากวันเดินทางกลับถึงประเทศไทย
ทั้งนี้ในแต่ละพื้นที่จะมีการจัดเวรยามเฝ้าตลอด 24 ชั่วโมง
โดยฝ่ายปกครองจังหวัดจะเป็นผู้ดูแล เมื่อกักตัวครบ 14 วัน
ให้ผู้กักตัวมาตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลในพื้นที่และต้องมีใบรับรองแพทย์การตรวจรับรองว่าเป็นผู้ไม่ติดเชื้อ
หากผู้ใดฝ่าฝืนจะดำเนินคดีตามกฎหมาย
สำหรับการจัดกิจกรรมที่มีคนมารวมตัวกัน
เช่น การประชุมสัมมนา การอบรม การศึกษาดูงานนอกสถานที่
หรือการจัดกิจกรรมอื่นใดที่มีคนมารวมกันตั้งแต่ 50
ขึ้นไป ให้งดหรือเลื่อน หากมีมีความจำเป็นต้องจัดกิจกรรม
จะต้องมีการคัดกรองและรายงานสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเลย ภายใน 24 ชั่วโมง ในส่วนของสถานที่บริการประชาชน เช่น ตลาด ห้างสรรพสินค้า
หรือที่ที่มีการจัดการให้คนมารวมกัน ให้มีการทำความสะอาด อุปกรณ์ที่ใช้รวมกัน
รวมถึงจัดให้มีเจอแอลกอฮอล์ ล้างมือ หรือล้างมือด้วยน้ำและสบู่เหลว และ กิจกรรม big
Cleaning เป็นครั้งๆ ตามความเหมาะสม
นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดยังได้สั่งการให้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์
พร้อมงบประมาณให้แก่สำนักงานสาธารณสุขอำเภอวังสะพุง และโรงพยาบาลวังสะพุงในการดูแลผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลที่เข้ามาซื้อ-ขายสลากฯ
เดือนละ 2 ครั้ง ซึ่งเป็นชุมนุมคนหนาแน่น และเป็นกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ
เพราะเดินทางไปขายสลากฯมาทั่วประเทศ ขณะเดียวกัน ได้มีมาตรการงดกิจกรรมบ่อนไก่ทั้ง
11 แห่งในจังหวัดเลยที่ขออนุญาตทั้งเก่าและใหม่ชั่วคราวด้วย.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น