วันอังคารที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2563

สาวผาขาวถูกแฟนแทงตายในเกาหลี แม่ไร้เงินนำศพกลับ (ชมคลิป)



จากกรณีเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2563  เวลาประมาณ 16.00 น.  เกิดเหตุน.ส.นฤมล  บุญประคม  อายุ 23 ปี  ชาวบ้านตำบลท่าช้างคล้อง  อ.ผาขาว จ.เลย  เสียชีวิตในห้องพัก ย่านนาจู เมืองจอนนัม  ประเทศเกาหลีใต้ จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นพบว่า ถูกของมีคมแทงเข้าร่างกาย 2 แผล  และในวันต่อมานายคมธวัช  จันทร์เขียว  อายุ 27 ปี  ชาวบ้านหนองตานา  ต.ท่าช้างคล้อง  อ.ผาขาว  แฟนหนุ่มของน.ส.นฤมล เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยอมรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุใช้มีดแทงแฟนสาวจนเสียชีวิต



หลังเกิดเหตุ  เพื่อนของ น.ส.นฤมล  ได้โพสต์แสดงความเสียใจในเฟซบุ๊ค พร้อมขอรับบริจาคเงินให้แก่ครอบครัวของผู้ตาย เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายนำศพกลับมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด  ซึ่งต้องมีค่าใช้จ่ายกว่า 150,000 บาทนั้น

ล่าสุด เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2563  ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของ น.ส.นฤมล  บุญประคม ผู้ตาย  บรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบเหงา มีเพื่อนบ้านและญาติมาคอยปลอบใจและให้คำปรึกษาแก่นางบุญญรัตน์  บุญประคม อายุ 49 ปี  แม่ของ น.ส.นฤมล  และพ่อ ยังอยู่ในอาการโศกเศร้า รอรับศพลูกสาว




นางบุญญรัตน์ เปิดเผยว่า  ตนมีลูกสองคน คนโตคือ น.ส.นฤมล  ได้ไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้ได้เกือบสองปีแล้ว  เป็นคนงานโรงงานผลิตแพ็กกิ้งอาหาร  ไปโดยถูกต้องตามกฎหมาย ไมได้เป็นผีน้อย  ซึ่งมีนายคมธวัช  จันทร์เขียว  แฟนหนุ่ม เดินทางไปทำงานก่อนแล้ว  ทั้งสองคนคบหากันตั้งแต่เรียนมัธยมด้วยกัน ตอนนั้นลูกสาวอยู่ ม.2 นายคมธวัชอยู่ชั้น ม.ปลาย  หลังจากลูกเรียนจบ ก็มาอยู่บ้านตนแบบสามีภรรยา แต่ยังไม่ได้แต่งงาน ตนรักลูกเขยคนนี้เหมือนลูก พยายามพูดจาและทำความดี  ขณะที่นายคมธวัช มักมีอารมณ์ฉุนเฉียว โมโหง่าย หาเรื่องทะเลาะกับลูกสาว และพ่อกับแม่เป็นประจำ

ในขณะที่ทั้งสองคนอยู่เกาหลี ก็มีเรื่องทะเลาะกันตลอด ลูกเขยมักมีอาการหึงหวง ทะเลาะ ทำร้าย ตบตีลูกสาวอยู่เสมอ  ซึ่งทั้งสองคนทำงานอยู่คนละเมือง  จะเจอกันในช่วงวันหยุด  เคยโทรมาขู่ทำร้ายตนกับสามีว่าจะฆ่าล้างโคตร  ก่อนเกิดเหตุ นายคมธวัชเข้าใจผิด ระแวงว่าลูกสาวตนกำลังปันใจให้ชายอื่น   ช่วงเช้าวันที่ 8 มีนาคม นายคมธวัชได้โทรมาบอกตนว่า วันนี้จะไปกำจัดสิ่งชั่วร้าย  แล้วดื่มเหล้าเกาหลีหลายขวด  จนกระทั่งในช่วงเย็นวันเดียวกัน  น้องสาวของนายคมธวัชซึ่งพักอยู่ใกล้กับลูกสาวตน ก็ได้โทรมาบอกว่า  ให้ทำใจดีๆไว้ ตอนนี้ลูกสาวเสียชีวิตแล้ว  ตนเสียใจมากจนทำอะไรไม่ถูก คิดไว้แล้วว่าจะ เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นจนได้  เพราะลูกเขยคนนี้ข่มขู่มาตลอด




เมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา ลูกสาวได้เดินทางกลับมาพักผ่อนที่บ้าน  ตนก็ได้เตือนและขอร้องไม่อยากให้กลับไปทำงานที่เกาหลีอีก เพราะกลัวจะโดนนายคมธวัชทำร้าย  แต่ลูกสาวยังอยากจะหาเงินเก็บอีกสักระยะ แล้วจะกลับมาอยู่บ้าน เอาเงินมาให้พ่อแม่ลงทุนทำเกษตรพอเพียง แต่ก็มาสูญเสียลูกไปอย่างไม่มีวันกลับ

ตอนนี้ไม่รู้ว่าจะนำศพลูกกลับมาได้ยังไง  แต่ก็ได้ไปติดต่อกับทางราชการแล้ว  เขาบอกให้รอขั้นตอนระหว่างประเทศ แต่ต้องใช้เงินจำนวนกว่า 150,000  บาท  ตนก็ไม่รู้จะไปหาที่ไหน  ทุกวันนี้รอคอยศพลูกด้วยความทรมานใจ  อยากให้ลูกกลับบ้านเร็วๆ คิดถึงลูกมาก กินไม่ได้ นอนไม่หลับ ไม่อยากทำอะไรทั้งนั้น  ใจจดจ่อรอรับโทรศัพท์จากหน่วยงานราชการอย่างเดียว   ส่วนพ่อแม่ของนายคมธวัช  ก็ไม่สนใจใยดีเข้ามาถามไถ่ หรือแสดงความเห็นใจใดๆ นางบุญญรัตน์  กล่าว.



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น