เมื่อวันที่ 23
มีนาคม 2563 ที่สถานีขนส่งจังหวัดเลย
มีประชาชนชาว สปป.ลาว จำนวนมาก ที่เดินทางกลับจากกรุงเทพฯ จังหวัดทางภาคกลาง
ตะวันออก และจังหวัดใหญ่ในภาคอีสาน จะเดินทางกลับภูลำเนาที่แขวงไซยะบุรี
และแขวงหลวงพระบาง
หลังจากทางราชการมีมาตรการปิดกิจการ ร้านค้า
เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
โดยเมื่อเดินทางลงรถบัสประจำทาง ส่วนใหญ่จับกลุ่มกันยืนรอรถ
เพื่อเดินทางไปยังด่านพรมแดนนากระเซ็ง อ.ท่าลี่
ซึ่งปกติจะมีรถประจำทางสายเลย-หลวงพระบาง
คอยให้บริการ
แต่ทางจังหวัดเลยได้มีคำสั่งปิดด่านพรมแดนที่ติดกับ สปป.ลาว ทุกแห่ง
ทำให้รถประจำทางสายดังกล่าวต้องหยุดให้บริการ ชาวสปป.ลาวที่เดินทางมาถึง
ต้องเหมารถสองแถวและรถกระบะไปที่ด่านท่าลี่ ระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร ในราคาเที่ยวละ 800-1,000 บาท
ผู้โดยสารชาวลาวรายหนึ่งเปิดเผยว่า เดินทางกลับมาจากจังหวัดระยอง
เพื่อจะไปบ้านที่ไชยะบุรี
ไม่รู้ว่าด่านปิด เพิ่งมารู้ก็ตอนลงรถมาแล้ว ตอนนี้ไม่รู้ข้ามด่านได้หรือเปล่า
แต่ยังไงก็ขอให้ไปถึงด่านท่าลี่ไว้ก่อน
อย่างอื่นค่อยว่ากันทีหลัง
ส่วนนางสาวสิวาพร สารวงษ์
พนักงานจำหน่ายตั๋วรถประจำทางของบริษัทขนส่ง ท่ารถเลย เปิดเผยว่า ช่วงเช้ามืดมีชาวลาวแบกกระเป๋า
หอบสัมภาระเข้ามาขอซื้อตั๋วรถทัวร์สายเลย-หลวงพระบาง
จำนวนมาก เต็มหน้าตึก แต่ต้องผิดหวัง เพราะขณะนี้รถได้ปิดให้บริการชั่วคราว ตามคำสั่งของทางจังหวัด ทำให้หลายคนผิดหวัง
เดินออกไปหาเหมารถไปที่ด่านเอง
และบางคนก็เดินทางกลับไปที่ทำงานเดิม
ส่วนเจ้าหน้าที่ขายตั๋วรถสายขอนแก่น-เมืองเลย เล่าว่า ตั้งแต่เช้ามืด มีคนลาวมารอรถเยอะมาก พากันเหมารถกระบะ รถสองแถวไปที่อำเภอท่าลี่
นั่งเบียดเสียดแออัด เห็นแล้วก็เป็นห่วงว่าจะเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค
ทั้งนี้ คาดว่า คนงานชาวลาวจะตกค้าง
ติดอยู่ที่ด่านพรมแดนอำเภอท่าลี่เป็นจำนวนมาก
ขณะที่ทางราชการ ยังไม่มีมาตรการมารองรับแต่อย่างใด.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น