จากกรณีแขวงไชยะบุรี
สปป.ลาว ได้สั่งปิดด่านพรมแดนทั้ง 5
แห่ง พรมแดนที่ติดกับประเทศไทย 4
จังหวัด ประกอบด้วย จ.พะเยา น่าน
อุตรดิตถ์ และ จ.เลย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มีผลตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2563 ทำให้แรงงานชาว สปป.ลาว
ไม่สามารถเดินทางข้ามด่านพรมแดนบ้านนากระเซ็ง สะพานมิตรภาพน้ำเหืองไทย-ลาว
ต.อาฮี อ.ท่าลี่ จ.เลย ฝั่งตรงข้ามเมืองแก่นท้าว แขวงไชยะบุรี สปป.ลาว ได้
พากันติดค้างอยู่ที่บริเวณหน้าด่านจำนวนมาก
ซึ่งแรงงานเหล่านี้
เดินทางมาจากกรุงเทพฯ และปริมณฑล
จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งได้รับผลกระทบจากการปิดสถานบริการ
ร้านค้า ร้านอาหารมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของรัฐบาลไทยนั้น
โดยทางจังหวัดเลยได้ช่วยเหลือแรงงานชาวสปป.ลาว ที่ติดค้าง
จำนวน 49 คน ตั้งแต่เมื่อวานนี้
ให้ไปพักพิง และกักตัวอยู่ที่วัดลาดปู่ทรงธรรม หรือวัดพระธาตุสัจจะ ห่างจากด่านพรมแดนบ้านนากระเซ็งประมาณ 4
กิโลเมตร พร้อมดูแลจัดหาอาหาร น้ำดื่ม ให้ครบสามมื้อ
อย่างไรก็ตาม
ในวันนี้ (4 เมษายน 2563) แรงงานชาวลาวยังคงเดินทางมารอผ่านแดนอย่างต่อเนื่อง
โดยพากันเหมารถกระบะ รถตู้
และรถส่วนตัวของคนไทยมาเป็นหมู่คณะ แต่ต้องพบกับความผิดหวัง
ไม่สามารถ ข้ามไปได้ จึงพากันติดค้าง
พักอาศัยอยู่ตามเพิงร้านอาหาร และใต้ต้นไม้ รอคอยการช่วยเหลือจากทางลาวและไทย
ความคืบหน้าล่าสุด
เมื่อช่วงเย็นวันนี้ นายโสภณ สุวรรณรัตน์
รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย
ได้ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมในการดูแลแรงงานชาว
สปป.ลาวที่ติดค้างอยู่ด่านพรมแดนบ้านนากระเซ็ง และที่วัดลาดปู่ทรงธรรม โดยได้แนะนำให้ผู้ที่ทำงานอยู่ในจังหวัดเลย
เดินทางกลับไปหานายจ้างก่อน เพราะทางการ สปป.ลาว ยังคงปิดด่านพรมแดนทุกจุด นับตั้งแต่วันที่ 3 – 19 เมษายน ส่วนปัญหาหนังสือเดินทางที่กำลังจะหมดอายุนั้น ขณะนี้ทางการไทยกำลังพิจารณาอนุโลม
ผ่อนผันให้อยู่ต่อได้ไปจนถึงวันที่ 26 เมษายน
สำหรับผู้ที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด ในวันนี้มีประมาณ 50 คน ซึ่งทางราชการได้จัดเตรียมสถานที่กักตัว 14 วัน
ไว้ที่ศูนย์โอทอปอำเภอท่าลี่ ตรงข้ามวัดลาดปู่ทรงธรรม โดยมีสำนักงานสาธารณสุขอำเภอท่าลี่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และอำเภอท่าลี่
เข้ามาดูแล พร้อมทั้งขอให้แรงงานชาวลาวที่ติดค้างอยู่ที่ด่านนากระเซ็ง
ช่วยบอกเพื่อนชาวลาวในประเทศไทย ไม่ต้องเดินทางมาอีกแล้ว
เพราะทางการไทยก็ไม่สามารถช่วยเหลือให้ข้ามด่านได้
รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลยกล่าวว่า ขอให้ชาวอำเภอท่าลี่อย่าได้ตื่นตระหนก เพราะชาวลาวที่ติดค้างและต้องมากักตัว 14 วัน ไม่ใช่ผู้ติดเชื้อโควิด และไม่ใช่ผู้ป่วยแต่อย่างใด เป็นเพียงการปฏิบัติตามมาตรการของทางรัฐบาลไทยที่กำหนดมาเท่านั้น ซึ่งอยู่ในการดูแลอย่างดีของเจ้าหน้าที่
รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลยกล่าวว่า ขอให้ชาวอำเภอท่าลี่อย่าได้ตื่นตระหนก เพราะชาวลาวที่ติดค้างและต้องมากักตัว 14 วัน ไม่ใช่ผู้ติดเชื้อโควิด และไม่ใช่ผู้ป่วยแต่อย่างใด เป็นเพียงการปฏิบัติตามมาตรการของทางรัฐบาลไทยที่กำหนดมาเท่านั้น ซึ่งอยู่ในการดูแลอย่างดีของเจ้าหน้าที่
ด้านแรงงานลาวที่ถูกส่งเข้ากักตัวอยู่ที่วัดลาดปู่ทรงธรรม
เปิดเผยว่า ทำงานอยู่ในจังหวัดชลบุรี
กำลังจะเดินทางกลับบ้านที่เมืองปากลาย
แขวงไชยะบุรี
เมื่อมาถึงด่านท่าลี่เมื่อวานนี้ ก็เพิ่งมาทราบว่าทางลาวปิดด่าน
ไม่สามารถเข้าไปได้ เจ้าหน้าที่จึงพามาอยู่ที่วัด ต้องขอชื่นชมที่ทางการดูแลเป็นอย่างดี
ทั้งสถานที่ก็สะดวกสบาย มีพัดลม
ศาลาวัดอากาศถ่ายเทดี มีน้ำ มีไฟฟ้าเพียบพร้อม
ในระยะเวลา 14 วันนี้ ก็จะทำตามที่เจ้าหน้าที่กำหนด
และจะช่วยกันทำความสะอาดบริเวณที่อยู่อาศัยอย่างดี.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น