นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม
ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ที่ ลย 0032.007 ว 2567 ลงวันที่ 9 เมษายน 2563 เรื่อง มาตรการป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (COVID-19) แจ้งไปยังหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ ธนาคาร
โรงพยบาลเอกชน และสถานศึกษาเอกชนทุกแห่งในจังหวัด โดยมีประกาศจังหวัดเรื่อง มาตรการป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (โควิด-19) ฉบับที่ 3 แนบไปด้วย
ประกาศฉบับดังกล่าวระบุว่า ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรและประกาศข้อกําหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2558 (ฉบับที่ 1) ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2563 รวมถึงคําสั่งและมาตรการต่าง ๆ ของจังหวัดเลยแล้ว นั้น เพื่อให้ประชาชนมี ความปลอดภัยจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จังหวัดเลยจึงจําเป็นต้องใช้ มาตรการเฝ้าระวัง ควบคุม และป้องกันอย่างเข้มข้น
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 35 (1) แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ
พ.ศ. 2558 ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย
โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเลย ตามมติที่ประชุม ครั้งที่ 4/2563
เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2563 ประกอบความในข้อ 1 และข้อ 7 (1) แห่งข้อกําหนดออกตามความ ในมาตรา 9 แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน
พ.ศ.2558 (ฉบับที่ 1) จึงมีมาตรการ ดังนี้
1. ปิดโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยพระราชบัญญัติโรงแรม
พ.ศ. 2547 ทุกประเภท ในพื้นที่ จังหวัดเลย เว้นแต่โรงแรมใดประสงค์จะเปิดดําเนินกิจการตามความจําเป็น
ให้ปฏิบัติตามมาตรการเฝ้าระวังควบคุม ป้องกัน การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (COVID-19) ตามข้อ
11 แห่งข้อกําหนดการบริหาร ราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548
(ฉบับที่ 1) ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2563 และมาตรการของ
กระทรวงสาธารณสุขโดยเคร่งครัดและได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อระดับอําเภอ
2. ห้ามแรงงานต่างด้าวเคลื่อนย้ายเข้าเขตจังหวัดเลยเพื่อเดินทางกลับประเทศ
เนื่องจาก ด่านพรมแดนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ปิดการเข้า-ออก ประเทศ
3. มาตรการเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกประเภทที่ปฏิบัติงานในเขตพื้นที่จังหวัดเลย
ห้ามหัวหน้า ส่วนราชการ ข้าราชการ ผู้บริหาร สมาชิกสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กํานัน
ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทุกประเภท เดินทางออกนอกเขตพื้นที่จังหวัดเลย เว้นแต่บุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องปฏิบัติหน้าที่รักษาพยาบาล
หรือได้รับอนุญาตจากผู้บังคับบัญชาตามระเบียบว่าด้วยการอนุญาตเดินทางไปราชการ กรณีหัวหน้าส่วนราชการ
ประจําจังหวัด นายอําเภอ และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ต้องได้รับอนุญาตต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเลย
โดยตรง
หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสองปี
หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับตามมาตรา 18 แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2558 และต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาทตามมาตรา
51 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.
2558 แล้วแต่ กรณีด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น