วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

ฟังความอีกด้าน ทหารยันแต่งนอกเครื่องแบบสกัดรถขนยาบ้า เจอสาวถ่ายคลิปโพสต์ประจาน แจ้งจับเอาผิด พ.ร.บ.คอมฯแล้ว (ชมคลิป)



จากกรณีเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2563  ผู้ใช้เฟซบุ๊คนามว่า “ Noey Buntita Srithong”  ซึ่งเป็นหญิงสาว ที่มาแฟนขับรถกระบะส่งสินค้า  โพสต์คลิปและภาพพร้อมข้อความลงในกลุ่ม “หางานรถกระบะตู้ทึบรับจ้างขนส่งทั่วประเทศ” ระบุว่าถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ ใช้อาวุธปืนสงครามจี้  อ้างตัวว่าเป็นทหาร ขอตรวจค้นที่บริเวณริมถนนสายเชียงคาน-หนองคาย บ้านปากเนียม  ต.ห้วยพิชัย  อ.ปากชม จ.เลย ขณะเดินทางไปส่งของที่อำเภอสังคม จ.หนองคาย



ซึ่งในคลิปมีชายใส่เสื้อกีฬาสีฟ้า สวมกางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ เข้ามาขอตรวจสอบว่ารถคันนี้เป็นรถต้องสงสัยตามที่สายรายงานว่าอาจเกี่ยวข้องกับการลักลอบขนยาเสพติด  โดยโพสต์ตั้งคำถามว่าเป็นเจ้าหน้าที่จริงหรือไม่  ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ต่อว่ากลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวอย่างรุนแรง และมีการแชร์ออกไปตามโซเชี่ยลมีเดียจำนวนมากนั้น




ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2563  ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่กองร้อยทหารพรานที่ 2215 สังกัดหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 22  ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านสงาว ต.ห้วยพิชัย  อ.ปากชม  ได้พบกับจ่าสิบโทบริพัฒน์  เทศธรรม  ตำแหน่งนายสิบยุทธการและการข่าว  กองร้อยทหารพรานที่ 2215   ซึ่งเป็นชายฉกรรจ์ที่แต่งกายเสื้อกีฬา กางเกงขาสั้น รองเท้าแตะตามที่ปรากฏในคลิป

จ่าสิบโทบริพัฒน์ ยอมรับว่า ตนเป็นคนเดียวกับชายเสื้อสีฟ้า กางเกงขาสั้น รองเท้าแตะในคลิปจริง  ซึ่งในวันเกิดเหตุ ตนได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้ลงพื้นที่หาข่าว ล่อซื้อยาเสพติดในพื้นที่ โดยให้ตนแต่งกายกลมกลืนกับชาวบ้านมากที่สุด เพื่อไม่ให้กลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดได้รับรู้ความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ ซึ่งในพื้นที่ที่รับผิดชอบของกองร้อย เป็นเส้นทางเลาะเลียบแม่น้ำโขง ติดชายแดน มักมีการลักลอบนำยาเสพติดเข้าในราชอาณาจักรอยู่บ่อยครั้ง  ในวันที่เกิดเหตุ  สืบทราบจากแหล่งข่าวว่า จะมีรถกระบะส่งของ แบบปิดทึบยกหลังคาสูงเข้ามารับส่งยาบ้า  ทหารพรานจึงได้สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ร่วมกันเข้าสืบหาข่าว และแบ่งกำลังดักซุ่ม 




ขณะขับรถตระเวนตามริมแม่น้ำโขง ได้พบรถต้องสงสัยมาจอดอยู่บริเวณริมแม่น้ำโขง ก่อนถึงบ้านปากเนียม มุ่งหน้าไปทางอำเภอสังคม จ.หนองคาย ซึ่งจุดที่จอดรถ เป็นจุดร่องน้ำลึก มักมีการลักลอบนำยาเสพติดขึ้นมาบริเวณนี้บ่อยครั้ง พวกตนจึงเข้าติดตามรถคันนี้ ควบคุมให้รถต้องสงสัยเข้ามาจอดในหมู่บ้านปากเนียมเพื่อขอตรวจค้น พร้อมประสานให้ผู้ใหญ่บ้านปากเนียมมาร่วมตรวจสอบด้วย

ซึ่งระหว่างขอตรวจสอบ ตนก็พูดจาด้วยความสุภาพ แสดงความบริสุทธิ์ใจ สอบถามที่มาที่ไปตามปกติ  ไม่มีการตรวจค้นในรถแต่อย่างใด มีเจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบอยู่ในเหตุการณ์ด้วย แต่ไม่ปรากฏในคลิป เมื่อตรวจสอบแล้ว ไม่พบว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และเชื่อว่า เป้าหมายที่ได้รับแจ้งมา อาจคลาดเคลื่อน จึงปล่อยให้ทั้งสองคนเดินทางต่อไป  แล้วพวกตนก็ต้องรีบอกจากพื้นที่ เพราะเกรงว่ากลุ่มคนร้ายเป้าหมายตัวจริงจะรู้ความเคลื่อนไหวเจ้าหน้าที่  และไม่มีการใช้ปืนจี้ตามที่กล่าวหาแต่อย่างใด   

ด้าน ร.ท.บุญหนัก  ทิพรักษ์  ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 2215   กล่าวว่า หลังได้รับรายงานว่าจะมีการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่รับผิดชอบของกองร้อยทหาพรานที่ 2215 ตนจึงได้จัดกำลังพล โดยประสานกับตำรวจ สภ.ปากชม  และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง  ภายใต้ศูนย์ปฏิบัติการเอาชนะยาเสพติดภาคอีสานตอนบน (ชอน.)วางแผนเข้าสกัดกั้น  โดยคัดเลือกทหารที่ต้องแต่งตัวนอกเครื่องแบบ ให้ดูเป็นชาวบ้านมากที่สุด จึงเลือกเอา จ.ส.ท.บริพัฒน์ เพราะหน้าตา ลักษณะทางทางไม่เหมือนเจ้าหน้าที่ไปปฏิบัติงาน  ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่ต้องมีรูปแบบการทำงานเช่นนี้ หากแต่งกายในเครื่องแบบ คนร้ายคงไหวตัวทันหมด 




ซึ่งการตรวจสอบในรถกระบะ มีรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ป้ายทะเบียนเชียงราย บรรทุกมาด้านหลัง สอบถามถึงเอกสารการขนส่งก็ไม่มีมาแสดงกับเจ้าหน้าที่ จึงเป็นที่น่าสังเกตุว่า ทั้งสองคนกลัวความผิดเรื่องการขนส่งรถหรือไม่  แต่เนื่องจาก เจ้าหน้าที่มีเป้าหมายเรื่องยาเสพติดเพียงอย่างเดียว จึงไม่ได้สนใจ เพราะจะทำให้การทำงานเบี่ยงเบน ผิดพลาด จึงต้องรีบออกจากพื้นที่โดยเร็ว  และเป็นที่น่าสังเกตว่า หญิงคนนี้เจาะจงถ่ายคลิปมาที่ทหารนอกเครื่องแบบ ทั้งๆเจ้าหน้าที่ไปกันหลายคน ทั้งในและนอบเครื่องแบบ  เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ ทำให้ขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่รู้สึกท้อแท้ ทุกคนปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง ทุ่มเทแรงกายแรงใจ เพื่อต่อสู้กับยาเสพติดไม่ให้แพร่ระบาดทำร้ายลูกหลานคนไทย ร.ท.บุญหนักกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการให้ข้อมูลแก่ผู้สี่อข่าว  จ่าสิบโทบริพัฒน์  เทศธรรม และนายสุรนันท์  สารีพิมพ์  และนางเพื่อน  นางสาวเพื่อน​ บุตรตา  ผู้ใหญ่บ้านปากชม และบ้านปากเนียมที่ร่วมตรวจสอบรถยนต์ในที่เกิดเหตุ  ในฐานะเจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.ปากชม เพื่อดำเนินคดีกับหญิงสาวผู้โพสต์คลิปดังกล่าว ในข้อหาความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์แล้ว เพราะได้รับความเสียหายต่อเชื่อเสียงและขวัญกำลังใจของเจ้าหน้าที่เป็นอย่างมาก. 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น