เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2563 ที่ด่านพรมแดนนากระเซ็ง สะพานมิตรภาพน้ำเหืองไทย-ลาว บ้านนากระเซ็ง ต.อาฮี อ.ท่าลี่ จ.เลย ฝั่งตรงข้าเมืองแก่นท้าว สปป.ลาว พ.อ.พิทักษ์พล ชูศรี ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 22 ค่ายศรีสองรัก พร้อมด้วยนายประชา แสนกลาง นายอำเภอท่าลี่ นำกำลังพล และเจ้าหน้าที่ อส. ฝ่ายปกครอง อ.ท่าลี่ เจ้าหน้าด่านศุลกากรท่าลี่ เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง อบต.อาฮี ได้จัดส่งประชาชนชาว สปป.ลาว ที่มาทำงานในประเทศไทย จำนวน 194 คน กลับภูมิเนา โดยทางการ สปป.ลาว ได้นำรถของทหารมารับ ซึ่งก่อนเดินทางกลับ เจ้าหน้าที่จากสำนักงานควบคุมโรคที่ 8 (อุดรธานี) และสำนักงานสาธารณสุขอำเภอท่าลี่ มาทำการตรวจวัดอุณหภูมิ คัดกรองชาว สปป.ลาว ด้วย
ขณะเดียวกัน ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 22 และนายอำเภอท่าลี่ ได้แจกจ่ายข้าวกล่องและนมถั่วเหลืองให้แก่ประชาชนชาว สปป.ลาว เพื่อบรรเทาความหิวในเบื้องต้น พร้อมนำกำลังพลช่วยยกกระเป๋าสัมภาระขึ้นรถให้ด้วย สร้างความประทับใจให้แก่ชาว สปป.ลาวเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ ชาว สปป.ลาวที่เดินทางกลับวันนี้ นับเป็นชุดสุดท้ายที่ตกค้าง ส่วนใหญ่เข้ามาทำงานก่อสร้าง ทำงานโรงงาน และร้านอาหาร ได้รับผลกระทบจากการจ้างงาน หลังเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยทางการลาวได้สั่งเปิดพรมแดนตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2563 ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งขณะสถานการณ์ใน สปป.ลาวและราชอาณาจักรไทย ได้คลี่คลายลงแล้ว ทางการลาวจึงเปิดพรมแดนเป็นการเฉพาะ ชั่วคราวก่อน เพื่อรับประชาชนของตนเองกลับ ซึ่งมาพักอาศัยคอยอยู่ที่บริเวณห้องแถวหน้าด่านพรมแดนนากระเซ็งเป็นเวลากว่า 1 สัปดาห์ มีประชาชนและทางราชการอำเภอท่าลี่ ได้มาแจกจ่ายอาหารและน้ำดื่ม ช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น