วันพุธที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

กลุ่มฮักน้ำเลยยื่นทบทวนสร้างเขื่อนศรีสองรัก หวั่นแผ่นดินไหวทำพัง (ชมคลิป)



เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2563  ที่โรงแรมเลยพาเลซ  สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นครั้งที่ 2 (ปัจฉิมนิเทศโครงการ) โครงการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการบริหารจัดการน้ำโขง เลย ชี มูล  โดยแรงโน้มถ่วงระยะที่ ซึ่งมีผู้แทนชุมชน ประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบเข้าร่วมประชุม



โดยโครงการนี้ มีที่ตั้งหัวงานอยู่บริเวณใกล้กับปากแม่น้ำเลย ตำบลเชียงคาน และตำบลปากตม อ.เชียงคาน  จ.เลย  และใกล้กับโครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำได้กำแผนดำเนินการผันน้ำจากแม่น้ำโขงเข้าสู่ลงสู่อุโมงค์และคลองส่งน้ำไปยังพื้นที่ทางการเกษตร ครอบคลุมพื้นที่ชลประทาน 1.69 ล้านไร่ 27 อำเภอ 7 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย ขอนแก่น ชัยภูมิ และกาฬสินธุ์  ใช้ระยะเวลาการก่อสร้าง 6 ปี  ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 98,780 ล้านบาท (เก้าหมื่นแปดพันเจ็ดร้อยแปดสิบล้านบาทถ้วน)




ทั้งนี้ ระหว่างการเปิดประชุม ได้มีตัวแทนชาวบ้านกลาง ต.ปากตม  อ.เชียงคาน  จ.เลย  ในนามกลุ่มฮักแม่น้ำเลย จำนวนกว่า 10 คน  ได้เดินทางมายื่นหนังสือต่อหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกับโครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำศรีสองรัก ประกอบด้วย  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  กรมชลประทาน  , สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) สำนักงบประมาณ  และผู้ว่าราชการจังหวัดเลย  เพื่อให้ทบทวนการศึกษาผลกระทบจากการเกิดแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในพื้นที่จังหวัดเลย  

หนังสือฉบับดังกล่าวระบุว่า จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่จังหวัดเลย ขนาด 3.8 ริกเตอร์ ที่ความลึก 5 กิโลเมตร เวลา 21:37 น. ศูนย์กลางที่ อ.เมือง จ.เลย การรับรู้การสั่นสะเทือน อ.เมือง อ.ท่าลี่ อ.เชียงคาน ซึ่งเกิดจากการเลื่อนตัวของรอยเลื่อนเลยในรูปแบบการเลื่อนตามแนวระนาบเลื่อนขวา ที่วางตัวในแนวทิศเหนือ-ใต้ ต่อยาวเข้าไปในสาธารณะรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มีความยาวประมาณ 100 กม. ซึ่งอยู่ด้านทิศตะวันออก และขนาดกับรอยเลื่อนเพชรบูรณ์ และมีโอกาสเป็นรอยเลื่อนพลังงาน และเคยเกิด





เหตุการณ์แผ่นดินไหวในลักษณะเช่นนี้ เมื่อวันที่ 16 ต.ค. 2562 ขนาด 3.9 ริกเตอร์  วันที่ 17 ต.ค. 2562 ขนาด 2.6 ริกเตอร์  วันที่ 8 มี.ค. 2561 ขนาด 3.4 ริกเตอร์ และวันที่ 31 พ.ค. 2560 ขนาด 3.3 8 ริกเตอร์ เกิดที่สาธารณะรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว แต่ประชาชนในจังหวัดเลยรู้สึกแรงสั่นสะเทือนได้เช่นเดียวกัน

ในกรณีการทำโครงการประตูระบายน้ำศรีสองรัก อ.เชียงคาน จ.เลย เป็นโครงการที่ไม่ได้ผ่านการทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA) ซึ่งในกระบวนการทำ EIA ต้องมีการศึกษาทรัพยากรทางกายภาพ พร้อมทั้งศึกษาภูมิศาสตร์ในพื้นที่อย่างละเอียด ในด้านธรณีวิทยา เช่นการสร้างเขื่อนขนาดใหญ่ ต้องมีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่เหนือเขื่อน ต้องศึกษาลักษณะทางธรณีวิทยาเพื่อไม่ให้น้ำที่เก็บกักไหลหรือรั่วซึมลงไปใต้ดิน ลักษณะหินต้องรองรับการสร้างเขื่อน ต้องศึกษาด้านการเกิดแผ่นดินไหวด้วย เพราะอาจก่อให้เกิดการพังทลาย ซึ่งเห็นถึงเห็นผลในความจำเป็นต้องมีการศึกษาEIA ได้ชัดเจน




ในการนี้ กลุ่มฮักแม่น้ำเลย จึงมีความกังวลจากสถานการณ์การเกิดแผ่นดินไหวที่มีต่อเนื่องมาหลายปี และโครงการประตูระบายน้ำศรีสองรัก มีการใช้ระเบิดในการดำเนินโครงการ อาจส่งผลให้เกิดแผ่นดินไหวถี่มากขึ้น พร้อมทั้งหากเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ อาจจะเกิดผลกระทบเป็นวงกว้าง จึงมีข้อเสนอให้กรมชลประทานจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA) โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมตามรัฐธรรมนูญ 2560  และให้ชะลอกิจกรรมการปรับสภาพพื้นที่และการระเบิดหินในบริเวณพื้นที่ก่อสร้างเขื่อนไปก่อนจนกว่าจะมีการศึกษารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเสร็จสิ้นสมบูรณ์  หนังสือระบุ






นายเกรียงไกร  สิงห์หฬ  กรรมการกลุ่มฮักแม่น้ำเลย เปิดเผยว่า  โครงการโขง เลย ชี มูล เป็นโครงการขนาดใหญ่ที่ชาวบ้านเชื่อว่ามีโครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำศรีสองรักเป็นส่วนหนึ่งด้วย แต่การศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมหรือทางสังคม ดำเนินโครงการแยกออกจากกัน จากการศึกษาเอกสารโครงการแล้วพบว่า จังหวัดเลยแทบจะไม่มีพื้นที่ได้รับประโยชน์ มีเพียงแค่ผลกระทบเท่านั้นที่ได้รับ เพราะน้ำส่วนใหญ่จะผันไปใช้ในพื้นที่ภาคอีสานตอนกลางและตอนล่าง การศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม ชาวบ้านก็ไม่ได้มีส่วนร่วม โดยเฉพาะชาวบ้านกลาง ทางผู้จัดเวทีรับความคิดเห็นในครั้งนี้ ไม่ได้ถูกรับเชิญเข้าร่วม ทั้งๆที่อยู่ในพื้นที่หัวงานก่อสร้าง  ชาวบ้านกลาง ในนามกลุ่มคนฮักแม่น้ำเลยขอคัดค้านการก่อสร้างทั้งสองโครงการ ที่จะทำให้ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต้องถูกทำลาย แม่น้ำเลยเสมือนเป็นตู้กับข้าวของชาวบ้านจะต้องสูญสลายไป ผลกระทบต่อเนื่องเป็นลูกโซ่ระบบนิเวศ ปากแม่น้ำเลยกับแม่น้ำโขง จะถูกตัดขาดไปด้วย นางเกรียงไกรกล่าว

ด้านนายสราวุธ  ชีวประเสริฐ  ที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์น้ำ  สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยว่า  โครงการระบายน้ำศรีสองรัก ไม่เกี่ยวข้องหรือไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการบริหารจัดการน้ำโขง เลย ชี มูล ในการศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม ได้นำเอาประเด็ความเสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินไหวในพื้นที่หัวงานมาศึกษาด้วย  ซึ่งจากการศึกษาพบว่า แม้จังหวัดเลยจะมีรอยเลื่อนพาดผ่าน แต่ความรุนแรงมีเพียง 2 – 4 ริกเตอร์เท่านั้น  การก่อสร้างได้มีมาตรฐานรองรับได้อยู่แล้ว หากแผ่นไหวรุนแรงขนาด 5 ริกเตอร์ขึ้นไป ก็อาจส่งผลกระทบต่อโครงสร้างฐานรากของสันเขื่อนอ่างเก็บน้ำ แต่สำหรับอุโมงค์ส่งน้ำไม่มีปัญหาแต่อย่างใด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น