เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (2 ก.ย. 63) ที่สมาคมพ่อค้าจังหวัดเลย
ตำบลกุดป่อง อำเภอเมือง จังหวัดเลย ผู้ประกอบการ พ่อค้า ประชาชน กว่า 50 คน
ในชุมนุมย่านใจกลางเมืองเลยเข้าร้องเรียนต่อทางราชการให้ย้ายผู้กักตัว State
Conlientine ที่โรงแรมแห่งหนึ่งใจกลางเมืองเลย หวั่นการระบาดของเชื้อโควิด-19 หลังมีชาวบ้านในระแวกนั้นเห็นออกจากโรงแรมไปซื้อสิ่งของยามวิกาลอย่างสะดวกสบาย
โดยทางนายกิตติคุณ บุตรคุณ นายอำเภอเมืองเลย พร้อมด้วยนายอภิชาติ
สบู่แก้ว รองแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเลย ได้เข้าชี้แจงแนวทางและมาตรการกำกับดูแลผู้ที่ถูกกักตัว
หลังเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ
นางจันทร์ทิพย์ เจนวาณิชย์ตระกูล ชาวบ้านอยู่ตรงข้ามโรงแรม เปิดเผยว่า ตนรู้กังวลใจ เพราะบ้านอยู่ใกล้กับโรงแรม ซึ่งเป็นย่านชุมชนหนาแน่นใจกลางเมือง ที่ผ่านมาตนเห็นคนที่กักตัว ออกมาจากห้องพัก วิ่งออกกำลังกายแต่อยู่ในบริเวณโรงแรม
ตนก็สงสัยว่าทำไมออกมาได้อย่างไร ไม่มีพนักงานโรงแรมหรือเจ้าหน้าที่ราชการคอยควบคุมหรือ
บางครั้งก็เห็นมานั่งคุยกันนอกห้อง
แต่ก็เห็นใส่หน้ากากอนามัยกันอยู่ ส่วนพนักงานโรงแรมก็ไม่เห็นใส่หน้ากากกันเลย ทำให้ชาวชุมชนที่อยู่รอบโรงแรมไม่สบายใจอย่างมาก
จึงอยากจะขอให้ทางจังหวัดเข้ามาชี้แจ้ง
กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ด้านนายกิตติคุณ บุตรคุณ นายอำเภอเมือง เปิดเผยว่า วันนี้ได้มาประชุมพ่อค้าประชาชน
ในเขตเทศบาลเมืองเลย ซึ่งประชาชนที่กังวลเรื่อง การกักตัวของผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศของทางฝ่ายราชการ
ซึ่งในการใช้โรงแรม เป็นสถานที่กักตัวนั้น ซึ่งอยู่ในใจกลางเมืองเลย
ซึ่งโดยมีข้อสรุปกันแล้วว่าจุดนี้จะยุติการใช้เป็นสถานที่กักตัวของผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ
ทั้งหมด 18 คน ซึ่งหลังจากนี้ คนที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ
ด้านชายแดนจังหวัดเลย ก็ยังมีโรงแรมอีก 1 แห่ง ที่เอาไว้
เป็นสถานที่รองรับกักตัวแทน ซึ่งทางราชการจะได้
การสื่อสารให้กับประชาชนได้รับทราบ เข้าใจถึงกระบวนการกักตัว
เพื่อให้มีกระบวนการส่วนร่วม ประเด็นที่สองคือ
เรื่องการยกระดับมาตรการทางสาธารณสุขที่ให้คลายกังวนกับพี่น้องประชาชน
ทั้งนี้
คนไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศที่กำลังกักตัวในโรงแรมดังกล่าวจำนวน 18
คน
เป็นคนที่ทำงานอยู่ในเขื่อนไชยะบุรี
สปป.ลาว
เดินทางกลับมาตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม 2563 โดยทางราชการออกค่าใช้ในการกักตัว 14 วัน
เป็นเงินหัวละ 20,000 บาท.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น