เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2563 สาขาวิชาทัศนศิลป์ ภาควิชามนุษยศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย จัดโครงการประเมินผลงานทัศนศิลป์นิพนธ์ (Visual Arts Thesis) นักศึกษาสาขาวิชาทัศนศิลป์ ชั้นปีที่ 4 โดยมีผู้ประเมินผลงานทัศนศิลป์ที่เป็นบุคคลภายนอกและอาจารย์ในสาขาทัศนศิลป์ร่วมพิจารณาผลงานของนักศึกษาจำนวน 6 คน ประกอบด้วย นายศุภนัฐ ชะเมาะชาติ ผลงานศิลปะภาพพิมพ์ เรื่อง “ปัญหาเรื่องการเมืองการปกครอง” , นางสาวกรกนก ทับอาสา ผลงานจิตรกรรม เรื่อง“ภาพสะท้อนสัตว์ป่าสูญพันธุ์” , นายปฎิพัทธิ์ จันทร์อ้วน ผลงานจิตรกรรม เรื่อง “ฮีโร่” , นายชนทัต รัตนมงคล การออกแบบเครื่องแต่งกายจากวัฒนธรรมไทดำ , นางสาววิจิตรา อินไข การออกแบบเครื่องแต่งกายจากเรื่องราวของความรักความผูกพันจากพ่อและแม่ และนางสาวตุลยา แถวทองคำ ผลงานจิตรกรรมเรื่อง ความรักของเพศที่ 3
รองศาสตราจารย์ไทยโรจน์ พวงมณี สาขาทัศนศิลป์ ภาควิชามนุษยศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎเลย กล่าวว่า โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษานำเสนอผลงานทัศนศิลป์ที่เกิดการจากการคิดสร้างสรรค์ผลงานตามความสนใจและความถนัดของตนเองให้กับสาธารณะชนได้ตรวจสอบ และเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างนักศึกษา อาจารย์สาขาทัศนศิลป์และผู้ประเมินผลงานจากภายนอกที่สาขาวิชาทัศนศิลป์เชิญมาร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้
ซึ่งการเรียนรู้กระบวนการสร้างสรรค์ผลงานผ่านรายวิชาทัศนศิลป์นิพนธ์จะช่วยส่งเสริมให้นักศึกษาสาขาทัศนศิลป์มีการจัดระบบวิธีการคิดที่ดีมีมาตรฐาน
มีการวางแผนการดำเนินการอย่างเป็นระบบ
มีการวางแผนและดำเนินการค้นหาแนวคิดทฤษฎีที่เกี่ยวเนื่องกับเรื่องราวที่ตนเองจำทำการศึกษา
และที่สำคัญคือมีการค้นพบองค์ความรู้ใหม่ๆตามประเด็นปัญหาที่ตนเองสนใจใครรู้และต้องการนำเสนอต่อสาธารณะชน
เช่นเดียวกับความสามารถในการนำเสนอผลงานออกมาให้กับผู้ประเมินรับรู้และรับฟังได้อย่างเป็นกระบวนการ
ที่น่าสนใจ ซึ่งท้ายสุดคือความสามารถค้นหาและสร้างอัตลักษณ์ของตนเองผ่านผลงานทัศนศิลป์ก่อนที่จะสำเร็จการศึกษาไปเป็นบัณฑิตที่สมบูรณ์สามารถทำงานรับใช้สังคม
ชาติและครอบครัวได้อย่างทรงคุณค่า
รองศาสตราจารย์ไทยโรจน์กล่าว
สำหรับผลงานที่น่าสนใจของนักศึกษาที่นำเสนอในครั้งนี้
คือผลงานภาพพิมพ์เรื่อง ปัญหาการเมืองการปกครอง ของนายศุภนัฐ ชะเมาะชาติ อายุ 21 ปี ที่สะท้อนปัญหาการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของเยาวชนที่ยังขาดการคิดวิเคราะห์ถึงข้อเท็จจริง
และเหตุผลก่อนที่จะมาสู่ความวุ่นวายทางการเมืองขณะนี้
ซึ่งพยายามจะเตือนสติเยาวชนให้รู้เท่าทันสื่อจากแขนงต่างๆ
โดยเฉพาะโซเชี่ยลมีเดียที่ยังมีข้อมูลที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงที่เกิดจากคนบางกลุ่มที่ตั้งใจจะสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายในบ้านเมือง
ภายใต้ความเลวร้ายของระบอบทุนนิยม ไม่เอนเอียงไปตามกระแส
เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดวงจรการเมืองไทยที่มักจะวนกลับไปกลับมา
นายศุภณัฐกล่าวว่า ตนเกิดในครอบครัวที่มีความเห็นต่างทางการเมือง คนในครอบครัวชอบคุยเรื่องการเมือง แต่เป็นไปด้วยเหตุด้วยผล หาข้อมูลมาหักล้างกัน ตนจึงซึมซับมาโดยตลอด จนกระทั่งได้มาเรียนศิลปะ จึงตั้งใจอยากแสดงออกทางการเมืองด้วยผลงานภาพพิมพ์ เพราะบางครั้งในสถานการณ์เช่นนี้ ความขัดแย้งทางความคิดด้านการเมืองค่อนข้างรุนแรง ตนเลือกที่จะไม่คุยการเมืองกับเพื่อน แต่จะแสดงออกด้วยผลงานเช่นนี้ นายศุภณัฐกล่าว.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น