ตัวแทนนักศึกษาที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า เมื่อวานนี้ ทางชาวบ้านกลุ่มคนรักษ์บ้านเกิด บ.นาหนองบง ต.เขาหลวง อ.วังสะพุง ได้เดินทางไปที่ สภ.วังสะพุง เพื่อทำการแจ้งความลงบันทึกประจำวัน หลังพบความผิดปกติของกองสินแร่ทองคำบริเวณหน้าโรงงานแต่งแร่ทองคำ บริษัท ทุ่งคำ จำกัด ที่ยังไม่ได้มีการตีตราจากเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ซึ่งจากการตรวจสอบของชาวบ้านเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2564 พบว่ามีรอยล้อรถแบ็คโฮลากยาวจากประตูทางเข้าไปถึงบริเวณกองสินแร่ทองคำ และพบว่ามีการเคลื่อนย้ายกองสินแร่บริเวณดังกล่าวโดยได้มีเกลี่ยกองสินแร่ไปรวมเป็นกองใหญ่กองเดียว นอกจากนี้ยังพบอีกว่าบริเวณด้านข้างของประตูทางเข้ามีการตัดแผงรั้วลวดหนามออกแล้วยังถูกม้วนไปกองไว้อีกฝั่งด้านหนึ่ง ซึ่งจากความผิดปกติที่เกิดขึ้นทำให้ชาวบ้านตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะเป็นการเตรียมความพร้อมที่จะขนสินแร่ออกจากพื้นที่หรือไม่
ซึ่งระหว่างการแจ้งความ
ได้มีชายฉกรรจ์แข้ามาถ่ายรูปกลุ่มชาวบ้านและนักศึกษา
จนเกิดเหตุการณ์วุ่นวายขึ้นเล็กน้อย
ก่อนที่ชายฉกรรจ์จะยอมรับว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ
หลังจากที่กลับมาถึงที่ตั้ง บริเวณด่านทางขึ้นเหมืองทองที่ชาวบ้านตั้งไว้เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มนายทุนที่ไม่ได้รับการประมูลแร่บนเหมืองทองลักลอบขึ้นไปนำเอาสินแร่ลงมา ก็มีชาย 5-6 คนที่สวมเสื้อกั๊กระบุข้อความกรมการปกครอง หนึ่งในนั้นทราบชื่อว่านายธนกฤต อันทะระ ลูกจ้างอำเภอวังสะพุง จ.เลย อดีตผู้ใหญ่บ้านแก่งสาคร ต.ผาบิ้ง อ.วังสะพุง มีลักษณะคล้ายคนเมาเหล้า พูดจาต่อว่าชาวบ้าน ทำให้เกิดการปะทะคารมกันอย่างรุนแรงระหว่างนายธนกฤตกับนักศึกษาที่มีไผ่ ดาวดินอยู่ด้วย หลังจากการเจรจาจบ โดยมีกำนันและปลัดอำเภอพาตัวแยกออกไป นายธนกฤตได้ขับห่างจากแคมป์ชาวบ้านประมาณ 50 เมตร ได้จอดรถ ลดกระจกแล้วยิงปืนขึ้นฟ้า 1 นัด สร้างความตื่นตกใจให้แก่ชาวบ้านและกลุ่มนักศึกษาเป็นอย่างมาก ไม่คิดว่าคนของรัฐเองจะกล้าลงมือทำเช่นนี้
ด้านชาวบ้านรายหนึ่งเปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุการณ์นี้ก็รู้สึกไม่ปลอดภัย
กลัวว่าจะซ้ำรอยเหตุการณ์ปี 2557 ที่มีกลุ่มชายฉกรรจ์กว่า 300
คน เข้ามาทำร้ายชาวบ้าน
แต่ตอนนี้ก็รู้สึกอุ่นใจที่มีกลุ่มนักศึกษามาอยู่ด้วย
นายลำดวน ตองหว้าน
ชาวบ้านนานหนองบง กล่าวว่า ตอนนี้ชาวบ้านรู้สึกไม่ปลอดภัย
อยากให้ทางราชการเข้ามาดูแลให้มากกว่านี้
และขอให้นำสินแร่และทรัพย์สินออกไปตามที่กรมบังคับคดีสั่ง เพื่อจะได้ฟื้นฟูธรรมชาติให้กลับคืนมาสู่ความสงบสุขเหมือนในอดีต
ด้านนายชัยธวัช เนียมศิริ
ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ
ได้รับรายงานจากนายอำเภอว่า ก่อนเกิดเหตุ นายอำเภอวังสะพุงได้ส่งปลัดอำเภอและกำนันลงพื้นที่ไปดูแลความสงบเรียบร้อยในหมู่บ้านนาหนองบง ซึ่งนายธนกฤตได้ตามไปด้วย
โดยไม่มีผู้ใดสั่งการ
เมื่อไปถึงแล้วก็มีปากเสียงกับชาวบ้าน
เจ้าหน้าที่จึงได้กันตัวนายธนกฤตออกไปก่อนที่จะบานปลาย หลังจากนั้นก็ได้ยิงปืนขึ้นฟ้า 1 นัด แล้วก็ขับรถออกไปทันที
ปลัดอำเภอได้รายงานให้นายอำเภอทราบ แล้วแจ้งไปที่ตำรวจให้ไปนำตัวมาดำเนินคดี
ผู้ว่าราชการจังหวัดเลยกล่าวอีกว่า จนกระทั่งเวลา 18.00
น. เศษ ตนได้ทราบเรื่อง จึงรีบขับรถไปที่ สภ.วังสะพุง บังเอิญได้พบนายธนกฤต ผู้ก่อเหตุ
ที่เดินทางมามอบตัวกับตำรวจ พร้อมนำอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุมามอบให้ตำรวจ
ซึ่งตนได้กำชับกับตำรวจว่าให้ดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา
ในการกระทำของนายธนกฤตไม่เกี่ยวข้องกับทางราชการแต่อย่างใด เป็นการกระทำโดยส่วนตัวของนายธนกฤตเอง
ส่วนกรณีที่มีคนมาอ้างชื่อของผู้ว่าราชการจังหวัดเลย
เพื่อเข้าไปขนเอาสินแร่ในเหมืองทองนั้น
นายชัยธวัชกล่าวว่า
ตนก็เพิ่งทราบเรื่องนี้เช่นกัน
ขอยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้น
กระบวนการที่เกี่ยวกับเหมืองแร่ทองคำแห่งนี้ได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรม
จนศาลสั่งฟ้องล้มละลาย มีการประกาศขายแร่และทรัพย์ทอดตลาดไปแล้ว ซึ่งก็มีคนประมูลได้ถูกต้อง รอการขนย้าย
ถ้าประชาชนพบการกล่าวอ้างเช่นนี้ ขอให้มาบอกตน หรือแจ้งความจับได้เลย
ตนพร้อมจะไปเป็นพยานให้ และจะเป็นคนร้องทุกข์กล่าวโทษด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัดเลยกล่าว.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น